แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นผู้ไร้ความสามารถและตั้งผู้อนุบาลนั้น. เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาท. และเป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริง.
ย่อยาว
คดีนี้พนักงานอัยการร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นางสาวพเยียวิภาตแพทย์ เป็นผู้ไร้ความสามารถ และให้อยู่ในความอนุบาลของนางสาวพเยาว์ผู้เป็นพี่ นายพยุง วิภาตแพทย์ พี่ชายร้องคัดค้าน โดยขอเข้าร่วมเป็นผู้อนุบาลด้วย ผู้ร้องแถลงคัดค้านว่า ผู้คัดค้านไม่สมควรเข้ามาร่วมเป็นผู้อนุบาล ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นางสาวพเยียเป็นคนไร้ความสามารถให้อยู่ในความอนุบาลของนางสาวพเยาว์และนายพยุงผู้คัดค้านร่วมกัน ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าตั้งนางสาวพเยาว์ผู้เดียวเป็นผู้อนุบาลน่าจะเป็นผลดีกว่าตั้งผู้คัดค้านเข้าร่วมเป็นผู้อนุบาลด้วย ข้อที่ผู้คัดค้านได้คัดค้านฎีกาของผู้ร้องว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ผู้ร้องจึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248, 224 เพราะไม่เกี่ยวแก่สิทธิแห่งสภาพบุคคล หรือสิทธิในครอบครัวนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การขอให้ศาลสั่งว่า ผู้วิกลจริตเป็นผู้ไร้ความสามารถ และให้อยู่ในความอนุบาลของผู้ร้อง เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์พิพาท และเป็นคดีที่เกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคล มาตรา 248 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่แก้ไขใหม่ห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงเฉพาะคดีที่มีทุนทรัพย์ หรือ จำนวนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าพันบาทเท่านั้น คดีนี้จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง พิพากษาแก้ให้นางสาวพเยียผู้ไร้ความสามารถอยู่ในความอนุบาลของนางสาวพเยาว์ผู้เดียว ให้ยกคำร้องคัดค้าน.