คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3618/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดแสดงว่า ก่อนเกิดเหตุและขณะเกิดเหตุจำเลยได้กระทำการอย่างใดหรือมีพฤติการณ์อย่างใดแสดงถึงว่าจำเลยอาจสมคบกับคนร้ายที่ยิงผู้เสียหาย คงปรากฏแต่เพียงว่าหลังเกิดเหตุจำเลยได้วิ่งหนีไปทางเดียวกับคนร้ายเท่านั้น แต่ทางที่คนร้ายและจำเลยวิ่งหนีไปก็เป็นทางเดิน ซึ่งผู้เสียหายกับพวกและคนร้ายกับพวกและจำเลยเดินตามกันมา จำเลยก็นำสืบว่าเมื่อวิ่งออกพ้นที่เกิดเหตุแล้ว คนร้ายกับพวกก็วิ่งแยกทางไป ค.และส.พยานโจทก์ก็เบิกความว่า หลังจากเกิดเหตุแล้วจำเลยก็คงอยู่ที่บ้านจำเลยตามปกติและจำเลยยังอ้างว่าได้ไปเยี่ยมผู้เสียหายด้วยส่วนคนร้ายกับพวกได้หลบหนีไป จำเลยเบิกความไม่มีข้อพิรุธประการใดกรณียังเป็นที่สงสัยตามสมควร ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยสมคบกับคนร้ายยิงผู้เสียหาย เม็ดตะกั่วกระสุนปืนของกลางเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดจึงสมควรให้ริบ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80, 83, 33 ริบเม็ดตะกั่วกระสุนปืนลูกซองซึ่งแพทย์ผ่าออกจากตัวผู้เสียหายเป็นของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295, 83 จำคุก 2 ปี ริบของกลาง ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าผู้เสียหายถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง 1 นัด ในขณะที่ผู้เสียหายเดินกลับจากเที่ยวงานกลางคืนพร้อมด้วยภรรยาและน้องชายโดยคนร้ายที่ยิงผู้เสียหายกับพวกเดินตามหลังผู้เสียหายมา จำเลยเดินอยู่ในกลุ่มคนร้ายด้วย เมื่อคนร้ายยิงผู้เสียหายแล้ว คนร้ายกับพวกก็วิ่งหนีไป จำเลยวิ่งหนีไปในทางเดียวกับพวกคนร้าย มีปัญหาว่าจำเลยสมคบกับคนร้ายในการกระทำผิดครั้งนี้ด้วยหรือไม่เห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอย่างใดแสดงว่า ก่อนเกิดเหตุและขณะเกิดเหตุจำเลยได้กระทำการอย่างใดที่เป็นการสมคบกับคนร้ายหรือมีพฤติการณ์อย่างใดแสดงถึงว่าจำเลยอาจสมคบกับคนร้าย คงปรากฏแต่เพียงว่าหลังเกิดเหตุจำเลยได้วิ่งหนีไปทางเดียวกับคนร้ายเท่านั้นแต่ทางที่คนร้ายและจำเลยวิ่งหนีไปก็เป็นทางเดิน ซึ่งผู้เสียหายกับพวกและคนร้ายกับพวกและจำเลยเดินตามกันมา จำเลยก็นำสืบว่าเมื่อวิ่งออกพ้นที่เกิดเหตุแล้ว คนร้ายกับพวกก็วิ่งแยกทางไป นางคูณและนายสมหมาย พยานโจทก์ก็เบิกความว่า หลังจากเกิดเหตุแล้วจำเลยก็คงอยู่ที่บ้านจำเลยตามปกติ และจำเลยยังอ้างว่าได้ไปเยี่ยมผู้เสียหายด้วย ส่วนคนร้ายกับพวกได้หลบหนีไป จำเลยเบิกความไม่มีข้อพิรุธประการใด กรณียังเป็นที่สงสัยตามสมควร ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยสมคบกับคนร้ายยิงผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้นแต่เม็ดตะกั่วกระสุนปืนของกลางเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด จึงสมควรให้ริบ”
พิพากษายืน แต่ให้ริบของกลาง.

Share