แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญากู้ยืมเงินไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืนไว้ โจทก์ผู้ให้กู้ย่อมจะเรียกให้จำเลยผู้กู้ชำระหนี้ได้โดยพลัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 203 วรรคแรก และมีอำนาจฟ้องให้จำเลยชำระหนี้โดยไม่จำต้องบอกกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 652 ก่อนก็ได้ จำเลยเพียงแต่ยกเอาข้อความที่จำเลยอุทธรณ์ขึ้นมากล่าวในคำฟ้องฎีกาว่าจำเลยอุทธรณ์ว่าอย่างไร ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าอย่างไรแต่จำเลยมิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ชอบหรือผิดพลาดข้อไหนอย่างไร เป็นฎีกาไม่ชัดแจ้ง ขัดต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ 2 ครั้ง เป็นเงินรวม170,000 บาท คิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืนโจทก์ทวงถามแล้วจำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 297,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน 170,000บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยกู้ยืมเงินจากโจทก์ ลายมือชื่อผู้กู้ในสัญญากู้ยืมเงินตามฟ้องเป็นลายมือชื่อปลอม โจทก์ไม่เคยทวงถาม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยตามฟ้องแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้บอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อนฟ้อง จำเลยยังไม่ตกเป็นผู้ผิดนัด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า ได้ความตามคำฟ้องว่าการกู้ยืมเงินระหว่างโจทก์จำเลยทั้งสองครั้งตามสัญญาไม่ได้กำหนดเวลาชำระต้นเงินคืนไว้ ดังนั้น โจทก์ย่อมจะเรียกให้จำเลยชำระหนี้ได้โดยพลันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 203 วรรคแรก และมีอำนาจฟ้องให้จำเลยชำระหนี้โดยไม่จำต้องบอกกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 652 ก่อนก็ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ก่อนฟ้องหรือไม่ จึงชอบแล้ว
ส่วนที่จำเลยฎีกาในข้อ 2.1 ว่า จำเลยขอถือเอาอุทธรณ์ของจำเลยทั้งหมดที่จำเลยได้หยิบยกเอามาบรรยายไว้ในฎีกาในเบื้องต้นเป็นฎีกาของจำเลยส่วนหนึ่ง ก็ปรากฏตามคำฟ้องฎีกาของจำเลยเพียงว่าจำเลยได้ยกเอาข้อความที่จำเลยอุทธรณ์ขึ้นมากล่าวว่าจำเลยอุทธรณ์ว่าอย่างไร ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าอย่างไร แต่จำเลยมิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่ชอบหรือผิดพลาดข้อไหนอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน