คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 205/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การพิจารณาการจัดสวัสดิการของโจทก์ให้แก่ลูกจ้างในกรณีตายนั้นจะต้องพิจารณาโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบมิใช่พิจารณาแต่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งเมื่อลูกจ้างส่วนใหญ่ได้รับสวัสดิการรวมแล้วสูงกว่าประโยชน์ทดแทนในกรณีตายตามพระราชบัญญัติประกันสังคม ฯ โจทก์จึงมีสิทธิขอลดส่วนอัตราเงินเดือนสมทบสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีตายได้ในอัตราร้อยละ 0.06

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จัดสวัสดิการในกรณีการตายอันมิใช่เนื่องมาจากการทำงานให้แก่ลูกจ้าง ก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ใช้บังคับ ที่มีการจ่ายในอัตราสูงกว่าประโยชน์ทดแทนในกรณีการตายตามพระราชบัญญัติประกันสังคม ฯโจทก์จึงมีสิทธิขอลดส่วนอัตราเงินสมทบในกรณีตายในอัตราร้อยละ 0.06จากอัตราเงินสมทบร้อยละ 1.5 ที่จะต้องจ่ายสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแต่จำเลยไม่ยอมลดส่วนให้แก่โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยลดส่วนอัตราเงินสมทบในกรณีการตายอันมิใช่เนื่องจากการทำงานอัตราร้อยละ 0.06ให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า ระเบียบคุรุสภาว่าด้วยการจ่ายเงินบำเหน็จเงินทำขวัญและเงินช่วยเหลือในการทำศพเจ้าหน้าที่คุรุสภา พ.ศ. 2503มีลักษณะไม่แน่นอน ไม่เป็นมาตรฐานแน่นอน จึงเป็นสวัสดิการที่มีการจ่ายในอัตราไม่สูงกว่าประโยชน์ทดแทนในกรณีตาย ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 มาตรา 55 คำสั่งของจำเลยที่ไม่ลดส่วนอัตราเงินสมทบชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยมีคำสั่งลดส่วนอัตราเงินสมทบในกรณีการตายอันมิใช่เนื่องจากการทำงานอัตราร้อยละ 0.06 ของอัตราค่าจ้างของผู้ประกันตนให้โจทก์และลูกจ้างของโจทก์ โดยให้มีผลบังคับนับแต่วันที่จำเลยมีคำสั่งลดอัตราเงินสมทบในกรณีการตายอันมิใช่เนื่องจากการทำงานเป็นต้นไป
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังยุติว่าขณะที่โจทก์ยื่นคำขอลดส่วนอัตราเงินสมทบนั้น โจทก์มีลูกจ้างทั้งหมดประมาณ 2,200 คน อัตราค่าจ้างขั้นต่ำสุดเดือนละ 2,800 บาทโจทก์มีลูกจ้างที่ได้รับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเดือนละ 2,800 บาทประมาณ 10 คน และอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำรายวันตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานวันละ 90 บาท มีปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยว่าโจทก์จัดสวัสดิการในกรณีการตายอันมิใช่เนื่องมาจากการทำงานให้แก่ลูกจ้างของโจทก์ มีการจ่ายในอัตราที่สูงกว่าประโยชน์ทดแทนในกรณีตายตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 มาตรา 55 หรือไม่พิเคราะห์แล้ว สวัสดิการที่โจทก์จัดให้แก่ลูกจ้างในกรณีตายนั้นบางกรณีลูกจ้างได้รับประโยชน์สูงกว่าบางกรณีได้รับประโยชน์ต่ำกว่าประโยชน์ทดแทนในกรณีตายตามพระราชบัญญัติประกันสังคมฯแต่เมื่อพิจารณาโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบแล้วเห็นได้ว่าลูกจ้างส่วนใหญ่ประมาณ 2,190 คน จะได้รับสวัสดิการสูงกว่า คงมีลูกจ้างส่วนน้อยประมาณ 10 คน บางกรณีเท่านั้นที่ได้รับสวัสดิการต่ำกว่า เห็นว่า การพิจารณาการจัดสวัสดิการของโจทก์ให้แก่ลูกจ้างในกรณีตายนั้น จะต้องพิจารณาโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบ มิใช่พิจารณาแต่เพียงส่วนใดส่วนหนึ่ง เมื่อพิจารณาโครงสร้างอัตราเงินเดือนของลูกจ้างทั้งระบบแล้ว สวัสดิการของโจทก์ที่จัดให้แก่ลูกจ้างในกรณีการตายอันมิใช่เนื่องมาจากการทำงานนั้น มีการจ่ายในอัตราสูงกว่าประโยชน์ทดแทนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม ฯ โจทก์จึงมีสิทธิขอลดส่วนอัตราเงินสมทบสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีตายได้ในอัตราร้อยละ 0.06
พิพากษายืน

Share