คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1586/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท บุคคลที่ ถูกฟ้องมีเพียงคนเดียวเป็นหญิง มีชื่อ 2 ชื่อ การที่โจทก์ ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องโดยขอแก้ชื่อจำเลยเป็น นาย ช. เป็นการแก้ทั้งชื่อและเพศของจำเลย ทั้งเป็นการขอแก้ไข หลังจากที่จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การต่อสู้คดี ว่าจำเลยมิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทแม้ศาลชั้นต้น จะยังไม่ได้สั่งรับคำให้การก็ตาม แต่ก็ทำให้ปรากฏว่า ผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทเป็นผู้อื่นที่ไม่ใช่บุคคล ซึ่งมีชื่อตามที่โจทก์ฟ้อง การขอแก้ไขคำฟ้องของโจทก์จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องผิดคนแล้วขอแก้ไขคำฟ้อง ซึ่งถ้าศาลสั่งอนุญาตจะมีผลเป็นการเปลี่ยนตัวบุคคลซึ่งเป็นจำเลยจากบุคคลหนึ่งเป็นอีกบุคคลหนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์ชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารสหธนาคาร จำกัด (มหาชน) สาขาย่อยพรานนก ลงวันที่ 7 มีนาคม 2539 จำนวนเงิน 44,342 บาท ซึ่งจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายโดยนายบุรินทร์ งามจิรภาคย์ ลูกค้าของโจทก์นำมาขายลดแลกเงินสดกับโจทก์ ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2539 ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่า บัญชีปิดแล้ว โจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยเพิกเฉยไม่ชำระหนี้ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 44,342 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 7มีนาคม 2539 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ให้นัดสืบพยานโจทก์วันที่ 15 พฤษภาคม 2540 ครั้นเมื่อถึงวันนัด จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ โดยยื่นคำให้การมาด้วยว่าจำเลยมิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท ผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายคือเจ้าของบัญชีร่วมกับจำเลย โจทก์คัดค้านคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การในวันเดียวกันนี้ธนาคารสหธนาคาร จำกัด สาขาย่อยพรานนก ได้ส่งเอกสารมาตามคำสั่งศาลชั้นต้นซึ่งออกคำสั่งตามคำขอของโจทก์เอกสารดังกล่าวคือคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันที่เป็นบัญชีของเช็คพิพาท ตัวอย่างลายมือชื่อสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหนังสือเดินทางของเจ้าของบัญชี และสำเนาใบสำคัญการสมรส ปรากฏว่าบัญชีดังกล่าวมีชื่อเจ้าของบัญชี 2 คนคือนางประไพพรรณ อับบาส คนสัญชาติไทย และนายซายิด อันจุม อับบาสคนสัญชาติปากีสถาน ทั้งสองเป็นสามีภริยากัน
วันที่ 19 มิถุนายน 2540 โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้อง โดยขอแก้ชื่อจำเลยจากนางประไพพรรณหรือซายิด จันจุมอัมพาหรือนางประไพพรรณ อับบาส เป็นนายซายิด อันจุมอับบาส
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องของโจทก์ ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาว่า โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เดิมโจทก์ฟ้องว่า จำเลยคือนางประไพพรรณหรือซายิด จันจุมอัมพา หรือนางประไพพรรณ อับบาส โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท บุคคลที่ถูกฟ้องดังกล่าวมีเพียงคนเดียวเป็นหญิง มีชื่อ 2 ชื่อ คือนางประไพพรรณหรือซายิด มีชื่อสกุล 2 ชื่อ คือจันจุมอัมพาหรืออับบาส การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องโดยขอแก้ชื่อจำเลยเป็นว่า นายซายิด อันจุมอับบาส จึงเป็นการแก้ทั้งชื่อและเพศของจำเลยอีกทั้งเป็นการขอแก้ไขหลังจากที่จำเลยยื่นคำให้การต่อศาลแล้วว่า จำเลยมิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายคือเจ้าของบัญชีร่วมกับจำเลย แม้ศาลชั้นต้นจะยังไม่ได้สั่งรับคำให้การก็ตาม แต่ก็ทำให้ปรากฏว่าผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทเป็นผู้อื่นที่ไม่ใช่บุคคลซึ่งมีชื่อตามที่โจทก์ฟ้อง การขอแก้ไขคำฟ้องของโจทก์จึงไม่ใช่เป็นเพียงการขอแก้ไขชื่อจำเลย แต่เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องผิดคนแล้วขอแก้ไขคำฟ้องซึ่งถ้าศาลสั่งอนุญาตจะมีผลเป็นการเปลี่ยนตัวบุคคลซึ่งเป็นจำเลยจากบุคคลหนึ่งเป็นอีกบุคคลหนึ่ง
พิพากษากลับ ให้บังคับไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น

Share