แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลแรงงานมีคำสั่งคำร้องให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบของจำเลยว่า จำเลยแต่งตั้งให้ ก. เป็นทนายความและใบแต่งทนายความดังกล่าวระบุให้ทนายจำเลยมีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่ศาลพิพากษาตามยอมจึงมิใช่การพิจารณาที่ผิดระเบียบ ถือได้ว่าศาลแรงงานฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยยินยอมให้ทนายความกรอกข้อความในใบแต่งทนายความระบุให้ทนายจำเลยมีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความได้ ดังนั้นที่จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้มอบอำนาจให้ทนายความมีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และมิได้ยินยอมให้ทนายความกรอกข้อความดังกล่าวในใบแต่งทนายความ การทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยทนายจำเลยซึ่งไม่มีอำนาจเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบจึงเป็นอุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการพิจารณาที่ผิดระเบียบ อันเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจาก โจทก์และจำเลยทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยทั้งสองยินยอมชำระเงินให้แก่โจทก์ 11,256,335.95 บาท ผ่อนชำระเป็นรายเดือน ๆ ละงวดเป็นเงินงวดละไม่น้อยกว่า 50,000 บาท ให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดไม่เกินหนึ่งปีนับจากวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความเริ่มชำระงวดแรกภายในวันที่ 25 มกราคม 2540 และศาลแรงงานกลางพิพากษาตามยอม
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 2 มิได้มอบอำนาจให้นายไกรสีห์ จ่ายสรรคโภชน์ ทนายจำเลยที่ 2 มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ทนายจำเลยที่ 2 กรอกข้อความดังกล่าวลงในใบแต่งทนายความโดยจำเลยที่ 2 ไม่ทราบและไม่ยินยอมทนายจำเลยที่ 2 จึงไม่มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความขอให้สั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาเฉพาะส่วนที่ผิดระเบียบใหม่
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งคำร้องให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบของจำเลยที่ 2ว่า จำเลยที่ 2 แต่งตั้งให้นายไกรสีห์ จ่ายสรรคโภชน์ เป็นทนายความ และใบแต่งทนายความดังกล่าวระบุให้ทนายจำเลยที่ 2มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ที่ศาลพิพากษาตามยอมจึงมิใช่การพิจารณาที่ผิดระเบียบ นั้น ถือได้ว่า ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2 ยินยอมให้ทนายความกรอกข้อความในใบแต่งทนายความระบุให้ทนายจำเลยที่ 2 มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความได้ ที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ว่าจำเลยที่ 2มิได้มอบอำนาจให้ทนายความมีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความและมิได้ยินยอมให้ทนายความกรอกข้อความดังกล่าวในใบแต่งทนายความ การทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยทนายจำเลยที่ 2ซึ่งไม่มีอำนาจเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ จึงเป็นอุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายเรื่องการพิจารณาที่ผิดระเบียบ อันเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกอุทธรณ์จำเลยที่ 2