แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยและให้จำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งอุทธรณ์โดยกำหนดให้มาทราบคำสั่งของศาลดังกล่าวในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 ถ้าไม่มาถือว่าทราบคำสั่งแล้ว ผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยได้ลงลายมือชื่อทราบข้อกำหนดและวันนัดดังกล่าวไว้ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นขั้นตอนการปฏิบัติของศาลในการกำหนดวิธีการรับทราบคำสั่งของศาลมีผลเป็นคำสั่งของศาลหาได้เป็นเพียงการคาดหมายของเจ้าพนักงานศาลว่าศาลจะมีคำสั่ง เมื่อใดไม่และเมื่อการรับทราบข้อกำหนดของศาลที่ให้มาทราบ คำสั่งศาลในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 เป็นกิจที่ผู้รับมอบฉันทะ จากทนายจำเลยได้รับมอบมาดำเนินการแทน และการทราบข้อกำหนด ดังกล่าวของศาลโดยผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยย่อมมีผลเป็นการ รับทราบของทนายจำเลยแล้ว จึงถือได้ว่าทนายจำเลยได้ทราบ คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยตลอดจนคำสั่ง ที่ให้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 ตามที่กำหนด ดังนี้ เมื่อจำเลยเพิกเฉย มิได้มีการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายในเวลากำหนดจึงต้องถือว่า จำเลยทิ้งอุทธรณ์
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามสัญญาซื้อขายจำนวน 710,700 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ต่อมาศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยทิ้งอุทธรณ์ จึงรวบรวมสำนวนส่งศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลอุทธรณ์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ศาลชั้นต้นได้สั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยและให้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ภายใน 15 วัน มิฉะนั้นถือว่าทิ้งอุทธรณ์ โดยกำหนดให้มาทราบคำสั่งของศาลดังกล่าวในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 ถ้าไม่มาถือว่าทราบคำสั่งแล้ว โดยผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยได้ลงลายมือชื่อทราบข้อกำหนดและวันนัดดังกล่าวไว้ แต่จำเลยมิได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลา ศาลอุทธรณ์จึงมีคำพิพากษาว่าจำเลยทิ้งอุทธรณ์
จำเลยฎีกาเป็นปัญหาแรกว่า ข้อกำหนดที่ให้มาฟังคำสั่งในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 ถ้าไม่มาให้ถือว่าทราบคำสั่งแล้วเป็นการกำหนดไว้ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งในอุทธรณ์ของจำเลยจึงมิใช่คำสั่งศาลนั้น เห็นว่า ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นขั้นตอนการปฏิบัติของศาลในการกำหนดวิธีการรับทราบคำสั่งของศาลมีผลเป็นคำสั่งของศาล หาได้เป็นเพียงการคาดหมายของเจ้าพนักงานงานศาลว่าศาลจะมีคำสั่งเมื่อไรดังที่จำเลยฎีกาไม่และข้อที่จำเลยฎีกาว่าผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คำร้องขอทุเลาการบังคับคดีฉบับลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2540ตามที่มอบหมายเสร็จสิ้นแล้วตามที่ได้รับมอบหมายการมาทราบคำสั่งรับอุทธรณ์ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 เป็นกิจการนอกขอบอำนาจที่ได้รับมอบหมายนั้น ปรากฏตามหนังสือมอบฉันทะระบุกิจที่รับมอบข้อ 3 รับทราบคำสั่งศาล และข้อ 4 อื่นใดที่จำเป็นดังนี้การรับทราบข้อกำหนดของศาลที่ให้มาทราบคำสั่งศาลในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 นั้น เป็นกิจที่ผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยได้รับมอบมาดำเนินการแทนและการทราบข้อกำหนดดังกล่าวของศาลโดยผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยย่อมมีผลเป็นการรับทราบของทนายจำเลยแล้วจึงถือได้ว่าทนายจำเลยได้ทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยตลอดจนคำสั่งที่ให้นำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 ด้วยตามที่กำหนด ดังนี้ เมื่อมิได้มีการนำส่งสำเนาอุทธรณ์ภายในเวลากำหนดต้องถือว่าทิ้งอุทธรณ์
พิพากษายืน