คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8044/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีมีประเด็นว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ติดตั้งอะลูมิเนียมที่โชว์รูม ของจำเลยหรือไม่ ดังนี้การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยได้เชิด ป. เป็นตัวแทนของจำเลยในการว่าจ้างโจทก์ติดตั้งอะลูมิเนียมที่โชว์รูมดังกล่าว เท่ากับศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์โดยมี ป. ทำการแทนจำเลยในฐานะเป็นตัวแทนของจำเลย จำเลยในฐานะเป็นตัวการจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเป็นการวินิจฉัยตรงตามประเด็นแห่งคดีดังกล่าวแล้ว หาใช่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยว่าจ้างโจทก์ติดตั้งอะลูมิเนียมเป็นเงิน104,700 บาท โจทก์ทำงานเสร็จส่งมอบแก่จำเลย เมื่อวัดขนาดพื้นที่หลังงานเสร็จกับรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว คิดเป็นเงิน103,683 บาท ต่อมาวันที่ 22 กันยายน 2535 โจทก์แจ้งยอดเงินค่าจ้างที่ถึงกำหนด จำเลยไม่ชำระ โจทก์ทวงถาม จำเลยเพิกเฉยจำเลยต้องรับผิดชำระค่าจ้างจำนวน 103,683 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 22 กันยายน 2535 ถึงวันฟ้องเป็นเงิน 6,480 บาท รวมเป็นเงิน 110,163 บาท ขอให้บังคับจำเลยใช้เงิน 110,163 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 103,683 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยว่าจ้างหุ้นส่วนจำกัดสกุลออฟอาร์ตตกแต่งโชว์รูม ตามฟ้องเป็นเงิน 580,000 บาท และห้างหุ้นส่วนจำกัดสกุลออฟอาร์ตว่าจ้างโจทก์ตกแต่งโชว์รูม ดังกล่าวเฉพาะการติดตั้งอะลูมิเนียมรายการที่ 6 และที่ 8 ตามใบเสนอราคาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 3 และ 4 รายการที่ 6 และ 8 จำเลยชำระค่าจ้างให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดสกุลออฟอาร์ต ครบถ้วนแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยยื่นคำร้องขอให้เรียกห้างหุ้นส่วนจำกัดสกุลออฟอาร์ตเข้าร่วมเป็นจำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
จำเลยร่วมให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 103,683 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 22 กันยายน 2535เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยร่วม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้มีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองแสนบาท จำเลยจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงมาว่า จำเลยได้เชิดนายประชา สกุลวัฒนา เป็นตัวแทนของจำเลยในการว่าจ้างโจทก์ติดตั้งอะลูมิเนียมที่โชว์รูมอีเลคโทรลักซ์ สาขาอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ของจำเลย และโจทก์ได้ติดตั้งอะลูมิเนียมที่โชว์รูมของจำเลยดังกล่าวเสร็จแล้ว
ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นายประชาเป็นตัวแทนเชิดของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นนั้น เห็นว่าคดีมีประเด็นว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์ติดตั้งอะลูมิเนียมที่โชว์รูมอีเลคโทรลักซ์ สาขาอิมพีเรียลเวิลด์สำโรงหรือไม่การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยได้เชิดนายประชาเป็นตัวแทนของจำเลยในการว่าจ้างโจทก์ติดตั้งอะลูมิเนียมที่โชว์รูมดังกล่าวเท่ากับศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์โดยมีนายประชาทำการแทนจำเลยในฐานะเป็นตัวแทนของจำเลย จำเลยในฐานะเป็นตัวการ จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ดังกล่าว จึงเป็นการวินิจฉัยตรงตามประเด็นแห่งคดีดังกล่าวแล้ว หาใช่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็นไม่
พิพากษายืน

Share