แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องโดยยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าจำเลยซื้อสินค้าและรับสินค้าจากโจทก์ไปครบถ้วนแล้วจำเลยชำระค่าสินค้าดังกล่าวด้วยเช็ค 5 ฉบับ แต่เช็คไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าสินค้าดังกล่าวให้โจทก์ ดังนี้ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ขอให้ชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขาย ไม่ได้ขอให้บังคับชำระหนี้ตามเช็คโดยเฉพาะ การที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์คืนเช็คให้จำเลยจึงไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ชอบที่ศาลจะสั่งไม่รับฟ้องแย้ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อสินค้าประเภทฟองน้ำวิทยาศาสตร์จากโจทก์หลายครั้ง จำเลยรับสินค้าไปครบถ้วนแล้วเป็นเงิน1,251,722.50 บาท จำเลยชำระค่าสินค้าแก่โจทก์ด้วยเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ฉบับแต่เมื่อเช็คดังกล่าวถึงกำหนดโจทก์เรียกเก็บเงินไม่ได้เพราะธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เป็นเหตุให้โจทก์เสียหายคิดเป็นดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง 84,576.20 บาทขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 1,336,297.20 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,251,722.50 บาทนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่เคยซื้อสินค้าจากโจทก์จำเลยออกเช็คตามฟ้องชำระหนี้เงินกู้แก่โจทก์แต่จำเลยชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าวครบถ้วนแล้วโดยโอนรถยนต์ให้แก่โจทก์ โจทก์จึงมีหน้าที่คืนเช็คทั้งหมดแก่จำเลยขอให้บังคับโจทก์คืนเช็คตามฟ้องแก่จำเลย หรือบังคับโจทก์ทำลายเช็คดังกล่าว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งในส่วนของฟ้องแย้งว่าฟ้องแย้งไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องโดยยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่า จำเลยซื้อสินค้าและรับสินค้าจากโจทก์ไปครบถ้วนแล้วเป็นเงิน 1,251,722.50 บาท จำเลยชำระค่าสินค้าดังกล่าวด้วยเช็ค 5 ฉบับ แต่เช็คไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าสินค้าดังกล่าวให้โจทก์ ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ขอให้ชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขาย ไม่ได้ขอให้บังคับชำระหนี้ตามเช็คโดยเฉพาะ ฟ้องแย้งของจำเลยและคำขอบังคับให้โจทก์คืนเช็คให้จำเลยจึงไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ศาลล่างทั้งสองไม่รับฟ้องแย้งชอบแล้ว
พิพากษายืน