คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5017/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พรรค ส. จดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองเมื่อวันที่17 ตุลาคม 2538 แต่ในคราวทีมีพระราชกฤษฎีกาประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539 ปรากฏว่าพรรคการเมืองดังกล่าวไม่มีสมาชิกของพรรคได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลย และหัวหน้าพรรคได้แจ้งต่อผู้ร้องขอยุบเลิกพรรคโดยในวันนัดไต่สวนคำร้อง ของ ศาลแพ่งพรรค ส.ก็มิได้คัดค้านดังนี้พรรคส. จึงต้องเลิกตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 46(4) แห่งพระราชบัญญัติพรรคการเมืองพ.ศ. 2524 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพรรคการเมือง(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 มาตรา 7 การร้องขอให้ศาล มีคำสั่งยุบพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 มาตรา 13 วรรคสี่ประกอบมาตรา 46 วรรคสี่ได้รับการยกเว้นการเสียค่าธรรมเนียมศาล

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นนายทะเบียนพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 มีหน้าที่รับจดทะเบียนพรรคการเมืองควบคุมดูแลการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกฎหมาย ตลอดจนดำเนินการสอบสวนและยื่นคำร้องให้ศาลฎีกามีคำสั่งยุบเลิกพรรคการเมือง พรรคเสรีประชาธิปไตยเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายและเป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองต่อผู้ร้องเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2538 ทะเบียนเลขที่ 47/2538 มีพันเอกสุบรรณ แสงพันธ์ุเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2539 ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรและกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539พรรคเสรีประชาธิปไตยได้ส่งสมาชิกของพรรคสมัครรับเลือกตั้งจำนวน126 คน แต่ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าไม่มีสมาชิกของพรรคเสรีประชาธิปไตยคนใดได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลย พันเอกสุบรรณหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยได้มีหนังสือแจ้งเหตุที่พรรคการเมืองดังกล่าวต้องเลิกให้ผู้ร้องทราบเพื่อให้ผู้ร้องดำเนินการขอยุบเลิกพรรคเสรีประชาธิปไตยต่อไป และผู้ร้องได้ดำเนินการสอบสวนแล้ว ปรากฏว่าเป็นความจริงขอให้ศาลแพ่งทำการไต่สวนเพื่อให้ศาลฎีกามีคำสั่งยุบเลิกพรรคเสรีประชาธิปไตยตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 มาตรา 46
พันเอกสุบรรค แสงพันธ์ุ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย ได้รับสำเนาคำร้องแล้วไม่คัดค้าน
ศาลแพ่งไต่สวนคำร้องและทำความเห็นเสนอต่อศาลฎีกาว่าพรรคเสรีประชาธิปไตยจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 17ตุลาคม 2538 ต่อมาเมื่อเดือนกันยายน 2539 ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรและให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 17 พฤศจิกายน2539 พรรคเสรีประชาธิปไตยไม่มีสมาชิกของพรรคได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลย ต่อมาพันเอกสุบรรณ แสงพันธ์ุหัวหน้าพรรคได้แจ้งต่อผู้ร้องขอยุบเลิกพรรคการเมืองดังกล่าว และผู้ร้องได้ทำการสอบสวนแล้วปรากฏว่าพรรคเสรีประชาธิปไตยไม่มีสมาชิกของพรรคได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539 จริง กรณีจึงต้องยุบเลิกพรรคเสรีประชาธิปไตย ตามพระราชบัญญัติพรรคการเมืองพ.ศ. 2524 มาตรา 46(4) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพรรคการเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 มาตรา 7
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังยุติตามที่ผู้ร้องนำสืบว่า พรรคเสรีประชาธิปไตยจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2538 แต่ในคราวที่มีพระราชกฤษฎีกาประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ในวันที่ 17พฤศจิกายน 2539 ปรากฏว่าพรรคการเมืองดังกล่าวไม่มีสมาชิกของพรรคได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลยและหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยได้แจ้งต่อผู้ร้องขอยุบเลิกพรรคโดยในวันนัดไต่สวนคำร้องของศาลแพ่งพรรคเสรีประชาธิปไตยก็มิได้คัดค้าน พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อได้ความว่าพรรคเสรีประชาธิปไตยไม่มีสมาชิกของพรรคได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539 พรรคเสรีประชาธิปไตยจึงต้องเลิกตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 46(4) แห่งพระราชบัญญัติพรรคการเมืองพ.ศ. 2524 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพรรคการเมือง(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 มาตรา 7
อนึ่ง ตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 มาตรา 13 วรรคสี่ ประกอบมาตรา 46 วรรคสี่ บัญญัติให้การดำเนินคดีของผู้ร้องได้รับการยกเว้นการเสียค่าฤชาธรรมเนียม
จึงมีคำสั่งให้ยุบเลิกพรรคเสรีประชาธิปไตยคืนค่าฤชาธรรมเนียมแก่ผู้ร้อง

Share