คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5601/2539

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การบอกกล่าวบังคับจำนองเป็นการแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้ซึ่งมิได้อยู่เฉพาะหน้า เมื่อการแสดงเจตนาดังกล่าวส่งไปถึงภูมิลำเนาของจำเลยตามสำเนาทะเบียนบ้านแล้ว ย่อมถือว่ามีผลนับแต่เวลาที่การแสดงเจตนานั้นไปถึงจำเลยซึ่งเป็นผู้รับการแสดงเจตนาแม้จะไม่มีผู้รับก็ตาม ถือว่าการบอกกล่าวบังคับจำนองดังกล่าวชอบแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2535 จำเลยได้กู้เงินจากโจทก์ สาขาพัทยาใต้ จำนวน 300,000 บาท ตกลงดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี เพื่อเป็นหลักประกันการกู้เงินจำเลยได้จดทะเบียนจำนองที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 2065 พร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนองในวงเงิน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี โดยมีข้อตกลงว่าหากบังคับจำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้ จำเลยยอมรับผิดในส่วนที่ขาดจนครบ เมื่อครบกำหนดชำระหนี้ตามสัญญา จำเลยมิได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์จนเสร็จสิ้นคงชำระเพียงบางส่วนครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2536จำนวนเงิน 13,000 บาท โจทก์ประสงค์จะเรียกหนี้ทั้งหมดคืนและบังคับชำระหนี้เอาแก่ทรัพย์จำนอง จึงมอบหมายให้ทนายโจทก์มีหนังสือทวงถามบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลยโดยทนายโจทก์ได้ส่งหนังสือทวงถามและบอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลยที่บ้านเลขที่ 153/82 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี ครบกำหนดชำระหนี้ตามหนังสือทวงถามจำเลยมิได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ขอบังคับให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน341,905.48 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยไถ่ถอนจำนองที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 2065เล่ม 21 ข. หน้า 15 เลขที่ 211 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้าง หากจำเลยไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้จำเลยชำระเงินส่วนที่ขาดจนครบถ้วนแก่โจทก์
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 388,731.33 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17 ต่อปี ของต้นเงิน 341,905.48 บาทนับถัดจากวันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์มีว่า การที่โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองไปยังจำเลยตามที่อยู่ให้ไว้ในสัญญาและเป็นที่เดียวกับที่อยู่ตามสำเนาทะเบียนบ้านของจำเลย แต่ไม่มีผู้รับ จะถือว่าเป็นการส่งคำบอกกล่าวบังคับจำนองโดยชอบแล้วหรือไม่ เห็นว่า การบอกกล่าวบังคับจำนองเป็นการแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้ซึ่งมิได้อยู่เฉพาะหน้า เมื่อการแสดงเจตนาดังกล่าวส่งไปถึงภูมิลำเนาของจำเลยตามสำเนาทะเบียนบ้านแล้ว ย่อมถือว่ามีผลนับแต่เวลาที่การแสดงเจตนานั้นไปถึงจำเลยซึ่งเป็นผู้รับการแสดงเจตนา แม้จะไม่มีผู้รับก็ตามจึงถือว่าการบอกกล่าวบังคับจำนองดังกล่าวชอบแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องบังคับจำนอง ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า หากจำเลยไม่ชำระเงินให้ยึดที่ดินน.ส.3 ก. เลขที่ 2065 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share