คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7975/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์ในรูปคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง แต่อุทธรณ์ของผู้ร้องเป็นการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนคดีและยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาจึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็น ราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 วรรคหนึ่งและตาราง 1(2)(ก) ในอัตรา 200 บาท แต่ผู้ร้องเสียเป็นค่าคำร้อง 40 บาท เท่านั้นจึงไม่ถึงต้อง ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์จากผู้ร้องเพิ่มเติม ผู้ร้องทราบคำสั่งแล้วไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระภายในระยะเวลาตามคำสั่งของศาลชั้นต้นตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ ถือได้ว่าผู้ร้องเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีอันเป็นการทิ้งฟ้องตามมาตรา 174(2) ประกอบมาตรา 246ศาลอุทธรณ์ต้องมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตาม มาตรา 132(1) แต่ศาลอุทธรณ์กลับวินิจฉัยว่าการที่ผู้ร้องไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระเพิ่มเติมจึงเป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้ามตามกฎหมายและพิพากษายกอุทธรณ์ของผู้ร้องเช่นนี้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน6 แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งมีราคาประเมิน 11,000,000 บาทโดยอ้างว่าเป็นของจำเลยทั้งสอง เพื่อบังคับชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา
ผู้ต้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา
ในวันนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ทนายผู้ร้องยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าผู้ร้องเจ็บป่วยมาศาลไม่ได้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า พฤติการณ์ของผู้ร้องมีลักษณะเป็นการประวิงคดี ให้ยกคำร้อง หากผู้ร้องประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 7 วัน
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์เพิ่มเติมจากที่ผู้ร้องเสียค่าคำร้องมาเพียง 40 บาทเป็นค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ 200 บาท แต่ผู้ร้องไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระเพิ่มเติมภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด อุทธรณ์ของผู้ร้องจึงเป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้ามตามกฎหมายพิพากษายกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของผู้ร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่า แม้ผู้ร้องยื่นอุทธรณ์ในรูปคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น แต่อุทธรณ์ของผู้ร้องเป็นการอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนคดีและยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 วรรคหนึ่งและตาราง 1(2) (ก) ในอัตรา 200 บาท แต่ผู้ร้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งโดยเสียเป็นค่าคำร้อง 40 บาทเท่านั้น จึงไม่ถูกต้องซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์จากผู้ร้องเพิ่มเติมให้ถูกต้องครบถ้วน ผู้ร้องทราบคำสั่งศาลชั้นต้นแล้วไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระภายในระยะเวลาตามคำสั่งของศาลชั้นต้นตามคำสั่งศาลศาลอุทธรณ์ภาค 1 ดังนั้นการที่ผู้ร้องไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ถือได้ว่าผู้ร้องเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้เพื่อการนั้น อันเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ประกอบมาตรา 246 ศาลอุทธรณ์ภาค 1ต้องมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความตามมาตรา 132(1)แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กลับวินิจฉัยว่าการที่ผู้ร้องไม่นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระเพิ่มเติมภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด อุทธรณ์ของผู้ร้องจึงเป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้ามตามกฎหมายและพิพากษายกอุทธรณ์ของผู้ร้อง เช่นนี้ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1จึงไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณา สมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้จำหน่ายคดีของผู้ร้องเสียจากสารบบความ

Share