แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การที่ศาลจะอนุญาตให้พิจารณาใหม่ได้ต้องเป็นกรณีที่ คู่ความขาดนัดพิจารณาและมีเหตุผลสมควรเชื่อว่าคู่ความ ฝ่ายที่ขาดนั้นมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าจำเลยจงใจขาดนัดพิจารณา แม้จะฟัง ข้อเท็จจริงด้วยว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การจำเลยก็ไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจาก โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสามออกจากที่ดินและเรียกค่าเสียหาย จำเลยทั้งสามขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสามและบริวารรื้อถอนพืชไร่ออกจากที่ดินของโจทก์ห้ามเกี่ยวข้องและให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นคำร้องว่า ในวันที่เจ้าพนักงานศาลนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งนั้น จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไปธุระที่ต่างจังหวัดเมื่อกลับมาก็ไม่พบว่ามีหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องที่เจ้าพนักงานศาลอ้างว่าปิดไว้ ส่วนในวันที่เจ้าพนักงานศาลนำหมายนัดสืบพยานโจทก์ไปส่งนั้น จำเลยที่ 1 ที่ 2 ออกไปทำไร่เมื่อกลับมาก็ไม่พบว่ามีหมายนัดปิดอยู่ จำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา หากจำเลยที่ 1 ที่ 2ได้ต่อสู้คดีก็จะชนะคดีเพราะที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 ที่ 2โดยได้รับการยกให้จากนายเฉลิมชัย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ครอบครองที่ดินพิพาทมาโดยตลอด แต่ยังมิได้เปลี่ยนแปลงทางทะเบียน ต่อมาจำเลยที่ 1 นำหนังสือรับรองการทำประโยชน์ไปมอบให้นายสุพรรณวัดเวียงคำ ยึดถือไว้เพื่อให้ช่วยเหลือฝากงานให้จำเลยที่ 1โจทก์รับโอนที่ดินมาโดยมิชอบ ขอให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2ไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ แต่จงใจขาดนัดพิจารณาไม่อนุญาตให้ยื่นคำให้การ ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยที่ 1และที่ 2 ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันอาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องเดือนละ 500 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง และข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติได้ว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ แต่จงใจขาดนัดพิจารณา มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่ได้หรือไม่ เห็นว่า กรณีที่ศาลอนุญาตให้พิจารณาใหม่นั้นต้องเป็นกรณีที่ขาดนัดพิจารณาและมีเหตุสมควรเชื่อว่าคู่ความฝ่ายที่ขาดนัดนั้นมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา ฉะนั้น เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 จงใจขาดนัดพิจารณาเช่นนี้ แม้จะฟังข้อเท็จจริงดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2มิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ก็ไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้พิจารณาใหม่ได้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ชอบแล้ว”
พิพากษายืน