แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เหตุคดีนี้เกิดที่อำเภอตรวน และพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอตรอนยืนยันว่าเป็นผู้สอบสวน ซึ่งจำเลยที่ 2 มิได้ซักค้านในข้อนี้เพื่อให้เห็นว่าการสอบสวนไม่ชอบแต่อย่างใด จึงฟังได้ว่ามีการสอบสวนโดยชอบแล้ว โจทก์มีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตและร่วมกันพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุสมควรและไม่ได้รับใบอนุญาต ทั้งไม่ใช่กรณี ที่ต้องมีติดตัวไปเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และไม่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมายแล้วจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายสุริยัน เชื้อจินดา (ที่ถูกเชื้ออินถา) ผู้เสียหาย และเด็กชายจำเนียร กว้างยาว ผู้ตายโดยเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ส่วนผู้เสียหายถูกกระสุนปืนที่บริเวณแขนซ้ายและบริเวณสะโพกซ้ายไม่ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ตำบลวังแดงอำเภอตรวน จังหวัดอุตรดิตถ์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 371, 80, 83, 91 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ และริบของกลาง
จำเลยที่ 1 ให้การรับสภาพ จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 และมาตรา 288, 80, 83, 371พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคแรก,72 วรรคแรก, 72 ทวิ วรรคสอง ฯลฯ คงจำคุกคนละ 22 ปี 10 เดือน20 วัน ของกลางริบ
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เหตุคดีนี้เกิดในเขตอำเภอตรอน และพันตำรวจตรีกวี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอตรวน ยืนยันว่าเป็นผู้สอบสวน ซึ่งจำเลยที่ 2 ก็มิได้ซักค้านพันตำรวจตรีกวีในข้อนี้ให้เห็นว่าการสอบสวนไม่ชอบแต่อย่างใด จึงฟังได้ว่าคดีนี้มีการสอบสวนโดยชอบแล้วโจทก์มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน