คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2529

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยศาลแรงงานกลางตรวจคำฟ้องแล้วมีคำสั่งว่ากรณีไม่ต้องด้วย พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 8(5)ไม่รับฟ้อง ดังนี้ การพิจารณาของศาลแรงงานกลางเป็นอันสิ้นสุดไปแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องขอให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางวินิจฉัยตามมาตรา 9 วรรคสองอีกย่อมมีผลเท่ากับว่าให้นำคดีมาสู่ การพิจารณาของศาลแรงงานกลางใหม่อีกครั้งหนึ่งจึงหาชอบด้วยกระบวนพิจารณาไม่

ย่อยาว

ศาลแรงงานกลางตรวจคำฟ้องโจทก์ที่ว่าศาลแรงงานกลางหลงเชื่อคำเบิกความเท็จของจำเลยพิพากษาว่าโจทก์เลิกจ้างจำเลยโดยไม่เป็นธรรมให้โจทก์จ่ายเงินหลายจำนวนแก่จำเลย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต้องจ่ายเงินดังกล่าว ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเท่าจำนวนเงินดังกล่าว แล้ว มีคำสั่งว่ากรณีไม่ต้องด้วย มาตรา 8(5) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ จึงไม่รับฟ้องโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลส่งสำนวนไปให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางวินิจฉัยชี้ขาดว่าคดีอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานกลางหรือไม่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า ศาลมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง หากโจทก์ไม่เห็นชอบด้วยก็ชอบที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาตามกฎหมายวิธีพิจารณาความต่อไป ไม่ใช่เรื่องที่จะร้องขอเช่นที่ขอมานี้ ให้ยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาส่งสำนวนไปให้อธิบดีฯ วินิจฉัยชี้ขาด
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า”คดีนี้ การพิจารณาของศาลแรงงานกลางเป็นอันสิ้นสุดจนมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ไปแล้ว การที่โจทก์ยื่นคำร้องลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2529 ขอให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 9 วรรคสอง อีกนั้นย่อมมีผลเท่ากับว่าให้นำคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลแรงงานกลางใหม่อีกครั้งหนึ่งทั้งที่การพิจารณาเป็นอันสิ้นสุดเด็ดขาดจากศาลแรงงานกลางไปแล้วซึ่งหาชอบด้วยกระบวนพิจารณาไม่ ศาลแรงงานกลางสั่งยกคำร้องของโจทก์ชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share