แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกระทำผิดฐานช่วยคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง มาตรา 64 วรรคแรก เพื่อให้พ้นการจับกุม โดยใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะให้คนต่างด้าวนั่งมาในรถยนต์ของกลางด้วยนั้น ถือไม่ได้ว่ารถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดดังกล่าวโดยตรง ไม่ริบรถยนต์ของกลาง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 11, 18, 62, 63, 64 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33,83, 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ริบของกลาง
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2มีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 วรรคแรกลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานช่วยคนต่างด้าวให้พ้นการจับกุม จำคุก8 เดือน ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานให้ที่พักอาศัยแก่คนต่างด้าวเพื่อให้พ้นการจับกุม จำคุก 8 เดือน จำเลยที่ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 62 วรรคแรกฐานเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกกระทงละ1 เดือน 15 วัน คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 และที่ 2และทางนำสืบของจำเลยที่ 4 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละหนึ่งในสี่ ลดโทษจำเลยที่ 4 กระทงละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 4มีกำหนด 2 เดือน ยกฟ้องจำเลยที่ 3 ของกลางริบ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 อุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 จำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตาย ศาลอุทธรณ์ภาค 2 จึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 2
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยที่ 4ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11, 18(ที่ถูก 18 วรรคสอง) ประกอบด้วยมาตรา 62 วรรคแรก จำคุก 1 เดือน15 วัน ลดโทษหนึ่งในสามแล้วคงจำคุก 1 เดือน โทษจำคุกให้รอไว้ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ฎีกาขอคืนรถยนต์ของกลางนั้นศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่ได้วินิจฉัยปัญหาข้อนี้ ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยเสียด้วยโดยไม่ย้อนสำนวน เห็นว่าการที่จำเลยที่ 1กระทำความผิดฐานช่วยคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง มาตรา 64 วรรคแรก เพื่อให้พ้นการจับกุมโดยใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะให้คนต่างด้าวนั่งมาในรถยนต์ของกลางด้วยนั้น ถือไม่ได้ว่ารถยนต์ของกลางเป็นทรัพย์สินที่จำเลยที่ 1 ได้ใช้ในการกระทำความผิดดังกล่าวโดยตรง จึงเป็นทรัพย์สินที่ไม่ควรริบ ฎีกาจำเลยที่ 1 ข้อนี้ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบรถยนต์ของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2