คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3578/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานอยู่ในที่เกิดเหตุเพียงคนเดียวแม้โจทก์ไม่สามารถนำผู้เสียหายมาเบิกความต่อศาลได้ คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพซึ่งสอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายและพยานบุคคล สามารถรับฟังใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2534 เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยกับพวกได้ใช้อาวุธปืนปล้นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายจำนวน 1 คัน ไป เหตุเกิดที่ตำบลปากทาง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตรขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 340 ตรี ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษา จำคุกจำเลย 10 ปี 12 เดือน ริบอาวุธปืนของกลาง
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ข้อหาปล้นทรัพย์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้มีประจักษ์พยานอยู่ในที่เกิดเหตุเพียงคนเดียวคือผู้เสียหาย แม้โจทก์ไม่สามารถนำผู้เสียหายมาเบิกความต่อศาลได้ คงมีแต่คำให้การชั้นสอบสวนที่จำเลยให้การรับสารภาพนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ พนักงานสอบสวนได้ถ่ายภาพได้คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยสอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายและพยานบุคคล คำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนสามารถรับฟังใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share