คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2286/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยในคดีล้มละลายยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ในคดีของตน เป็นกรณีที่จำเลยทั้งสองร้องคัดค้านการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 146 ไม่ใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22 แม้การขายทอดตลาดจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยชอบด้วยกฎหมายแต่การที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ซื้อขายในขณะนั้นและต่ำกว่าราคาประเมินของสำนักงานวางทรัพย์กลาง และปรากฏว่าเป็นการขายทอดตลาดครั้งแรกและผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองได้คัดค้านว่าเป็นราคาต่ำไป จึงไม่สมควรที่จะอนุญาตให้ขายไปควรให้เลื่อนการขายทอดตลาดไปก่อน

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลาย และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 ในราคา 14,700,000 บาท
ผู้ร้องและจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่า การขายทอดตลาดไม่ชอบเพราะเป็นการขายครั้งแรกและราคาที่ขายต่ำกว่าราคาประเมินของสำนักงานวางทรัพย์กลาง ผู้ร้องและจำเลยที่ 2 ได้คัดค้านราคาก่อนที่จะทำการขายแล้ว ขอให้มีคำสั่งยกเลิกหรือเพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าว และให้ขายทอดตลาดใหม่
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่าการขายทอดตลาดชอบแล้ว ราคาที่ขายสูงกว่าราคาประเมินของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ประเมินไว้ขณะยึดทรัพย์ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องและจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกเลิกการขายทอดตลาดที่ดินและตึกพิพาท แล้วดำเนินการขายทอดตลาดใหม่
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และผู้ซื้อทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้ซื้อทรัพย์ฎีกาว่า เมื่อจำเลยทั้งสองถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว จำเลยทั้งสองจึงไม่มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของตนเองเพราะตกเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปแล้ว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22จำเลยทั้งสองจึงไม่มีอำนาจร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นเห็นว่าการที่จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าว เป็นกรณีที่จำเลยทั้งสองร้องคัดค้านการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 146 ไม่ใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองแต่อย่างใด จำเลยทั้งสองจึงมีอำนาจร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าว แม้การขายทอดตลาดครั้งนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่การที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอราคาเพียง 14,700,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ซื้อขายขณะนั้นถึง 9,330,000 บาท และต่ำกว่าราคาประเมินของสำนักงานวางทรัพย์กลางถึง 4,180,791 บาท และปรากฏว่าการขายทอดตลาดครั้งนี้เป็นการขายครั้งแรก และผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองได้คัดค้านว่าเป็นราคาต่ำไป จึงไม่ควรด่วนขายที่ศาลอุทธรณ์เห็นสมควรให้เลื่อนการขายทอดตลาดไปก่อน เพื่อผู้มีส่วนได้เสียหรือประชาชนอื่นจะได้มีโอกาสเข้าสู้ราคาได้อีก หากได้ราคาสูงกว่าเดิมก็จะเป็นประโยชน์แก่ทั้งจำเลยและเจ้าหนี้ทั้งปวงที่จะได้รับชำระหนี้โดยทั่วหน้า แต่ถ้าขายได้ไม่สูงกว่านี้ ปัญหาข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับการขายทอดตลาดโดยไม่ชอบก็จะหมดสิ้นไปโดยปราศจากข้อสงสัย ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษายืน

Share