แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้จัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ จำเลยชักชวนผู้เสียหายให้ไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ และเรียกเงินค่าใช้จ่ายจากผู้เสียหาย แล้วจำเลยพาผู้เสียหายลักลอบเข้าไปทำงานในประเทศสิงคโปร์ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดหางานเท่านั้นแต่จำเลยได้ทำหน้าที่ของจำเลยโดยครบถ้วน โดยได้เป็นธุระพาผู้เสียหายไปทำงานยังประเทศสิงคโปร์ได้ การที่ผู้เสียหายถูกส่งตัวกลับนั้นผู้เสียหาย ทราบดีอยู่แล้วว่าการเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์จะต้องลักลอบเข้าไป จึงเป็นเรื่องที่ผู้เสียหายยอมเสี่ยงต่อการที่จะต้องถูกส่งตัวกลับเอาเอง ไม่ใช่เป็นความผิดของจำเลยและข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหาย ทั้งคำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างมีเหตุบรรเทาโทษ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83พระราชบัญญัติ จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30,82
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติ จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 มาตรา 30วรรคแรก, 82 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำคุก 3 ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้จัดหางานให้คนงานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศผู้เสียหายทั้งสามกับพวกเดินทางไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์จำเลยร่วมเดินทางไปด้วย นายอภิชาติกับนายประเพี้ยน ทำงานได้ประมาณ 1 เดือน นายบัณฑิตทำงานได้ประมาณ 12 วัน ก็ถูกทางการของประเทศสิงคโปร์ส่งตัวกลับ ส่วนจำเลยไม่ได้ทำงานคงพักอยู่ในประเทศสิงคโปร์ประมาณ 2 วัน ก็เดินทางกลับ มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ … ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้เสียหายทั้งสามเบิกความสมเหตุสมผล … ข้อต่อสู้ของจำเลยไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ศาลฎีกาพิเคราะห์ถึงการกระทำของจำเลยแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดหางานเท่านั้น แต่จำเลยได้ทำหน้าที่ของจำเลยโดยครบถ้วน โดยได้เป็นธุระพาผู้เสียหายทั้งสามไปทำงานยังประเทศสิงคโปร์ ได้ การที่ผู้เสียหายทั้งสามถูกส่งตัวกลับนั้น ผู้เสียหายทั้งสามทราบดีอยู่แล้วว่าการเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์จะต้องลักลอบเข้าไป จึงเป็นเรื่องที่ผู้เสียหายยอมเสี่ยงต่อการที่จะต้องถูกส่งตัวกลับเอาเอง ไม่ใช่เป็นความผิดของจำเลย และข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าจำเลยหลอกลวงผู้เสียหาย ทั้งคำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ”
พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1