คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5792/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องซื้อโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางมาจาก ส. จำเลยที่ 1ได้ทำสัญญาเช่าโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางจากผู้ร้อง สัญญาเช่าระบุห้ามนำไปใช้เล่นการพนันหรือกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการพนันต่อมาผู้ร้องไปหาจำเลยที่ 1 จึงทราบว่าจำเลยทั้งสามถูกจับกุมข้อหาเล่นการพนันสนุกเกอร์โดยไม่ได้รับอนุญาตและศาลมีคำสั่งริบโต๊ะสนุกเกอร์ของกลาง ดังนี้ โต๊ะสนุกเกอร์ของกลางเป็นของผู้ร้องและผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้คืนโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางแก่ผู้ร้องชอบแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยทั้งสามฐานเล่นการพนันสนุกเกอร์และริบโต๊ะสนุกเกอร์ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ของกลางเป็นของผู้ร้อง จำเลยที่ 1เป็นผู้เช่า ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด
โจทก์คัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของของกลางที่แท้จริงและรู้เห็นเป็นใจในการที่จำเลยที่ 1 นำของกลางไปใช้ในการกระทำความผิด
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้คืนของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางและรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามหรือไม่ ผู้ร้องเบิกความว่า ผู้ร้องซื้อโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางมาจากนายสุขชัยแล้วนำมาไว้ที่บ้านของผู้ร้องและให้บุคคลภายนอกเล่นโดยเก็บค่าเล่น ต่อมาผู้ร้องย้ายไปเลี้ยงกุ้งกุลาดำที่ตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ได้ย้ายโต๊ะสนุกเกอร์ไปให้คนงานเล่นที่บริเวณที่เลี้ยงกุ้ง การเลี้ยงกุ้งขาดทุนผู้ร้องจึงเลิกกิจการ และนำโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางไปฝากจำเลยที่ 1 ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาเช่าโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางจากผู้ร้อง สัญญาเช่าระบุห้ามนำไปใช้เล่นการพนันหรือกระทำการใด ๆเกี่ยวกับการพนัน ต่อมาเมื่อผู้ร้องไปหาจำเลยที่ 1 จึงทราบว่าจำเลยทั้งสามถูกจับกุมข้อหาเล่นการพนันสนุกเกอร์โดยไม่ได้รับอนุญาตและศาลมีคำสั่งริบโต๊ะสนุกเกอร์ของกลาง นอกจากนี้ผู้ร้องยังมีจำเลยที่ 1 เบิกความสนับสนุนคำเบิกความของผู้ร้องว่า จำเลยที่ 1ได้เช่าโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางจากผู้ร้องจริง โดยจำเลยที่ 1 เช่ามาเพื่อนำออกให้บุคคลภายนอกเล่นและเรียกเก็บค่าเกมส์ ส่วนพยานโจทก์มีสิบตำรวจเอกบุญมีและร้อยตำรวจโทเกรียงไกรหรือก้องภพผู้ร่วมจับกุมจำเลยทั้งสามและพนักงานสอบสวนเบิกความทำนองเดียวกันว่าวันเกิดเหตุจับกุมจำเลยทั้งสามในข้อหาเล่นการพนันสนุกเกอร์โดยไม่ได้รับอนุญาตที่บ้านของบิดาจำเลยที่ 1 พร้อมกับยึดโต๊ะสนุกเกอร์ของกลาง โดยพยานโจทก์ทั้งสองไม่ได้สอบถามจำเลยทั้งสามว่าโต๊ะสนุกเกอร์เป็นของใคร และทางสืบสวนก็ไม่ทราบว่าเป็นของใครเห็นว่า ผู้ร้องมีพยานบุคคลและพยานเอกสารประกอบยืนยันว่าโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางเป็นของผู้ร้องและผู้ร้องไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสาม และพยานโจทก์เท่าที่นำสืบมาไม่ปรากฏข้อเท็จจริงให้รับฟังได้เป็นอย่างอื่น จึงฟังว่าโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางเป็นของผู้ร้องและผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้คืนโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางแก่ผู้ร้องชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share