คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2419/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 272 วรรคหนึ่งและมาตรา 276 วรรคหนึ่ง หากจะมีการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลจะต้องมีการออกคำบังคับเพื่อให้โอกาสจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งภายในกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก่อนหากจำเลยยอมปฏิบัติตามคำบังคับก็ไม่จำต้องออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับคดี แต่หากจำเลยไม่ยอมปฏิบัติ จึงจะมีการออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับคดีแก่จำเลยต่อไป คดีนี้เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี โจทก์ขอออกคำบังคับและส่งให้จำเลยทราบแล้วแต่จำเลยยื่นอุทธรณ์และได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ หลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้วไม่ปรากฏว่าได้มีการออกคำบังคับเพื่อแจ้งให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อยังไม่ได้ออกคำบังคับแจ้งให้จำเลยทราบเพื่อให้โอกาสจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก่อน ย่อมจะออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับคดีแก่จำเลยอันเป็นการขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวไม่ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 400,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ โจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นออกคำบังคับ ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและส่งคำบังคับให้จำเลยทราบโดยวิธีปิดคำบังคับ จำเลยอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ทำคำพิพากษาเสร็จแล้วส่งมาให้ศาลชั้นต้นอ่านให้คู่ความฟัง ถึงวันนัดไม่มีคู่ความมาศาล ศาลชั้นต้นจึงให้งดการอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ต่อมาวันที่ 24 สิงหาคม 2533 โจทก์ยื่นคำขอให้ออกหมายบังคับคดีศาลชั้นต้นออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีระหว่างเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดี วันที่ 21 พฤศจิกายน 2533 จำเลยยื่นคำร้องว่าศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีโดยมิได้มีการออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาก่อนเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 276 ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนหมายบังคับคดีศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายบังคับคดี วันที่ 26 ธันวาคม 2533โจทก์แถลงว่าศาลได้ออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2530 และส่งคำบังคับให้จำเลยโดยชอบแล้ว ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งที่สั่งให้เพิกถอนหมายบังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่สั่งให้เพิกถอนหมายบังคับคดี ครั้นวันที่ 27 ธันวาคม 2533 โจทก์ยื่นคำแถลงขอให้ศาลชั้นต้นแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีตามหมายบังคับคดีต่อไป ศาลชั้นต้นสั่งว่า ให้โจทก์ยื่นคำขอออกคำบังคับเสียก่อน และวันที่ 7 มกราคม 2534 โจทก์ยื่นคำแถลงว่า โจทก์ได้ยื่นคำขอให้ศาลออกคำบังคับ ศาลได้ออกคำบังคับและส่งให้แก่จำเลยโดยชอบแล้ว โจทก์จึงไม่ต้องขอให้ศาลออกคำบังคับใหม่อีก ศาลชั้นต้นสั่งว่าไม่มีเหตุจะเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ให้ยกคำแถลง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการบังคับคดีตามหมายบังคับคดีต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 272 วรรคหนึ่งบัญญัติว่า “ถ้าศาลได้พิพากษาหรือมีคำสั่งอย่างใด ซึ่งจะต้องมีการบังคับคดีก็ให้ศาลมีคำบังคับกำหนดวิธีที่จะปฏิบัติตามคำบังคับนั้นไว้” มาตรา 276 วรรคหนึ่งบัญญัติว่า”ถ้าศาลเห็นว่าคำบังคับที่ขอให้บังคับนั้นได้ส่งให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญแล้วและระยะเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้เพื่อให้ปฏิบัติตามคำบังคับนั้นได้ล่วงพ้นไปแล้ว และคำขอนั้นมีข้อความระบุไว้ครบถ้วน ให้ศาลออกหมายบังคับคดีให้ทันที” เห็นว่า ตามบทบัญญัติดังกล่าวหากจะมีการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล จะต้องมีการออกคำบังคับเพื่อให้โอกาสจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งภายในกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก่อน หากจำเลยยอมปฏิบัติตามคำบังคับก็ไม่จำต้องออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับคดี แต่หากจำเลยไม่ยอมปฏิบัติ จึงจะมีการออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับคดีแก่จำเลยต่อไป คดีนี้เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโจทก์ขอออกคำบังคับและส่งให้จำเลยทราบแล้ว แต่จำเลยยื่นอุทธรณ์และได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ หลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้วไม่ปรากฏว่าได้มีการออกคำบังคับเพื่อแจ้งให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แต่อย่างใด เมื่อยังมิได้ออกคำบังคับแจ้งให้จำเลยทราบเพื่อให้โอกาสจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก่อนย่อมจะออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับคดีแก่จำเลยอันเป็นการขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวข้างต้นไม่ได้

Share