คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 บัญญัติว่า เมื่อปรากฏว่าได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสำหรับจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครมีอำนาจสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้ กฎหมายดังกล่าวได้บัญญัติไว้ในลักษณะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจที่จะพิจารณาว่ากรณีใดควรจะสั่งเพิกถอนหรือแก้ไข การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ของโจทก์ทั้งฉบับเนื่องจากระบุอาณาเขตด้านทิศตะวันตก คลาดเคลื่อน ทั้งที่ตามความเป็นจริงจดที่สาธารณประโยชน์ อันจะมีผลให้ที่สาธารณประโยชน์ดังกล่าวหายไป คำสั่งให้เพิกถอนดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ 1495/2530 ลงวันที่ 2สิงหาคม 2530 ของจำเลยที่ 1 ที่ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ของโจทก์ และมีคำสั่งว่าทางราชการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 49 ตำบลสว่าง อำเภอโพนทองจังหวัดร้อยเอ็ด ให้แก่โจทก์โดยชอบและโจทก์มีสิทธิครอบครองห้ามจำเลยทั้งสามและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง
จำเลยทั้งสามให้การว่า การเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) เลขที่ 49 เล่ม 20 หน้า 56 เป็นของโจทก์ โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดที่ 1495/2530 สั่ง ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2530 ที่เกี่ยวกับการให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ดังกล่าว ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 เสียด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 บัญญัติไว้เป็นใจความว่า เมื่อปรากฏว่าได้ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสำหรับจังหวัดอื่น นอกจากกรุงเทพมหานครมีอำนาจสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขได้ ที่โจทก์อ้างว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)เพียงแต่คลาดเคลื่อนโดยระบุอาณาเขตด้านทิศตะวันตกไม่ถูกต้องซึ่งตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง การสั่งให้เพิกถอนทั้งแปลงย่อมไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่นั้น เห็นว่า กฎหมายดังกล่าวหาได้บัญญัติไว้อย่างที่โจทก์อ้างไม่ แต่ได้บัญญัติไว้ในลักษณะที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจที่จะพิจารณาว่ากรณีใดควรจะสั่งเพิกถอนหรือแก้ไข ในกรณีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ของโจทก์ที่ระบุว่าอาณาเขตด้านทิศตะวันตกจดนายลี นางแอ่ง ทั้ง ๆ ที่ตามความเป็นจริงจดที่สาธารณประโยชน์โคกบาบก อันจะมีผลให้ที่สาธารณประโยชน์ดังกล่าวหายไป การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดมีคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ทั้งฉบับ จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61(1)
พิพากษายืน

Share