คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2120/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีฟ้องขอไถ่ทรัพย์ที่ขายฝากโดยโจทก์อ้างว่าได้ขอไถ่ทรัพย์ดังกล่าวภายในกำหนดตามสัญญาขายฝากแล้วแต่จำเลยไม่ยอมให้ไถ่คืนเป็นคดีที่พิพาทกันเกี่ยวกับทรัพย์ที่ขายฝากอันจะมีผลทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้หรือเสียสิทธิในทรัพย์นั้นเข้าลักษณะคดีมีทุนทรัพย์โดยถือทุนทรัพย์ตามราคาทรัพย์ที่ขายฝากหาใช่เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2536 โจทก์จดทะเบียนขายฝากที่ดินโฉนดเลขที่ 16040 แก่จำเลยไว้ในราคา 30,000 บาท กำหนดไถ่คืนภายใน 5 เดือน นับแต่วันทำสัญญาเมื่อใกล้จะครบกำหนดไถ่คืนโจทก์ติดต่อขอชำระเงินและให้จำเลยไปจดทะเบียนไถ่การขายฝากดังกล่าวแต่จำเลยเพิกถอนเฉย ขอให้พิพากษาให้โจทก์วางเงินสินไถ่ชำระแก่จำเลยจำนวน 30,000 บาท และให้จำเลยไปจดทะเบียนไถ่การขายฝากแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า เมื่อใกล้จะครบกำหนดไถ่คืนตามสัญญา โจทก์มิได้ไปติดต่อจำเลยเพื่อขอชำระเงินราคาที่ดินที่ขายฝากและขอให้จำเลยไปจดทะเบียนไถ่ที่ดินดังกล่าวคืนเพราะไม่มีเงินที่ดินที่ขายฝากซึ่งตกเป็นของจำเลย การที่โจทก์ฟ้องแต่มิได้นำเงินมาวางศาลเป็นเพียงการประวิงเวลาเพื่อรอหาเงินมาชำระหรือเพื่อเป็นการขยายเวลาไถ่ทรัพย์คืน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายก อุทธรณ์ โจทก์
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นคดีฟ้องขอไถ่ทรัพย์ที่ขายฝาก คือที่ดินซึ่งโจทก์ขายฝากแก่จำเลยไว้ในราคา 30,000 บาท โดยอ้างว่าโจทก์ขอไถ่ทรัพย์ดังกล่าวภายในกำหนดตามสัญญาขายฝากแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมให้ไถ่คืนซึ่งเป็นคดีที่พิพาทกันเกี่ยวกับทรัพย์ที่ขายฝากอันจะมีผลทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้หรือเสียสิทธิในทรัพย์นั้น เข้าลักษณะคดีมีทุนทรัพย์โดยถือทุนทรัพย์ตามราคาทรัพย์ที่ขายฝาก คือ 30,000บาท หาใช่เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกอันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ดังที่โจทก์กล่าวอ้างมาในฎีกาไม่ เมื่อราคาทรัพย์ที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์ไม่เกิน 50,000 บาท จึงต้องห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224วรรคหนึ่ง คดีนี้ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์ที่ขายฝากโดยชอบ ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์ที่ขายโดยชอบแล้ว เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว คำพิพากษาศาลฎีกาที่โจทก์อ้างรูปเรื่องไม่ตรงกับคดีนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่รับวินิจฉัยและให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share