คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้ตามคำฟ้องโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าที่ดินและค่าเสารั้วที่โจทก์ออกทดรองไปก่อนแต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นของบุคคลภายนอกคดีจึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่าโจทก์จำเลยและบุคคลภายนอกมีการตกลงกันให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินพิพาทแก่บุคคลภายนอกและโจทก์ต้องชำระค่าเสียหายแก่บุคคลภายนอกอีก50,000บาทโดยจำเลยเป็นฝ่ายออกเงินทดรองไปก่อนเพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริงว่าที่ดินพิพาทเป็นของบุคคลภายนอกหรือไม่ดังนั้นแม้ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการเรียกร้องให้โจทก์คืนเงินซึ่งจำเลยชำระให้แก่บุคคลภายนอกแทนโจทก์เนื่องจากการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทก็ตามฟ้องแย้งดังกล่าวก็เป็นประเด็นสืบเนื่องมาจากการซื้อขายที่ดินพิพาทรายเดียวกันฟ้องแย้งกับคำฟ้องเดิมจึงมีความเกี่ยวพันกันชอบที่จะพิจารณารวมกันได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระราคาที่ดินพิพาทที่จำเลยซื้อจากโจทก์กับเงินค่าเสารั้วล้อมรอบที่ดินพิพาทที่จำเลยให้โจทก์ทดรองจ่ายไปรวมเป็นเงิน 1,167,820 บาท จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ที่ดินพิพาทมิใช่ของโจทก์แต่เป็นของนางอนงค์นาค ฟูตาสืบ โจทก์นำที่ดินพิพาทมาหลอกขายจำเลยเมื่อจำเลยยื่นขอเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินในนามของจำเลยนางอนงค์นาคคัดค้านและดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาแก่โจทก์ต่อมาโจทก์ จำเลย และนางอนงค์นาคตกลงยุติข้อพิพาทโดยนางอนงค์นาคถอนคำคัดค้านการออกโฉนดแต่จำเลยต้องชำระราคาที่ดินพิพาทให้แก่นางอนงค์นาคและโจทก์ต้องชำระค่าเสียหายแก่นางอนงค์นาคเป็นเงิน 50,000 บาทโจทก์ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวแทนโจทก์ไปก่อน โดยโจทก์ต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่จำเลย ขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งให้โจทก์ชำระเงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยให้แก่จำเลย
ศาลชั้นต้นสั่งรับคำให้การ ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม จึงไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยอุทธรณ์ ขอให้รับฟ้องแย้ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ฟ้องแย้งเกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิมหรือไม่ คดีนี้โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยซื้อจากโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายกับเงินค่าเสารั้วล้อมรอบที่ดินพิพาท ซึ่งจำเลยให้โจทก์ทดรองจ่ายไปก่อน จำเลยให้การว่า จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทกับโจทก์เนื่องจากโจทก์หลอกลวงว่าเป็นเจ้าของที่ดินพิพาท ต่อมาเมื่อจำเลยทราบความจริงว่าที่ดินพิพาทเป็นของบุคคลภายนอก และบุคคลภายนอกจะดำเนินคดีแก่โจทก์ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โจทก์ จำเลยและบุคคลภายนอกจึงตกลงกันให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินพิพาทแก่บุคคลภายนอก ทั้งโจทก์ยังต้องชำระค่าเสียหายให้แก่บุคคลภายนอกอีกจำนวน 50,000 บาทแต่โจทก์ไม่มีเงิน จึงขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวแทนไปก่อนจำเลยไม่มีความผูกพันตามสัญญาจะซื้อขายกับโจทก์อีกต่อไปโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า แม้ตามคำฟ้องโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าที่ดินและค่าเสารั้วที่โจทก์ออกทดรองไปก่อนแต่เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ของโจทก์แต่เป็นของบุคคลภายนอก ดังนั้น คดีจึงมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ของจำเลยว่า โจทก์ จำเลยและบุคคลภายนอกมีการตกลงกันให้จำเลยชำระเงินค่าที่ดินพิพาทแก่บุคคลภายนอก และโจทก์ต้องชำระค่าเสียหายแก่บุคคลภายนอกอีก 50,000 บาท โดยจำเลยเป็นฝ่ายออกเงินทดรองไปก่อน เพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริงที่ว่าที่ดินพิพาทเป็นของบุคคลภายนอกหรือไม่ ดังนั้น แม้ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการเรียกร้องให้โจทก์คืนเงินซึ่งจำเลยชำระให้แก่บุคคลภายนอกแทนโจทก์ เนื่องจากการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทก็ตามฟ้องแย้งดังกล่าวก็เป็นประเด็นสืบเนื่องมาจากการซื้อขายที่ดินพิพาทรายเดียวกันฟ้องแย้งกับคำฟ้องเดิมจึงมีความเกี่ยวพันกันชอบที่จะพิจารณารวมกันได้ ฟ้องแย้งจึงเกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิมที่ศาลล่างทั้งสองไม่รับฟ้องแย้งนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ รับฟ้อง แย้ง ของ จำเลย ไว้ พิจารณา

Share