แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำสั่งศาลชั้นต้นที่เพิกถอนคำสั่งรับอุทธรณ์และมีคำสั่งรับอุทธรณ์และมีคำสั่งว่าคำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาโจทก์ยังอุทธรณ์ไม่ได้ซึ่งมีความหมายว่าเป็นการไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์นั่นเองการที่โจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา234ดังนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยื่นตามคำปฎิเสธของศาลชั้นต้นนั้นแล้วคำสั่งนี้ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา236วรรคแรก
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยและบริวารขนย้ายออกไปจากที่ดินพิพาทและชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทพร้อมส่งมอบที่ดินคืนให้โจทก์และใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามฟ้อง
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า เห็นสมควรให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นให้พิจารณาคดีใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ ต่อศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งรับอุทธรณ์และมีคำสั่งว่า คำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์ยังอุทธรณ์ไม่ได้ ให้เพิกถอนคำสั่งรับอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งว่า ที่ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้องของโจทก์
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าโจทก์ฎีกาได้หรือไม่เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งรับอุทธรณ์และมีคำสั่งว่า คำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์ยังอุทธรณ์ไม่ได้ซึ่งมีความหมายว่าเป็นการไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์นั่นเอง การที่โจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ดังนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งยืนตามคำปฎิเสธของศาลชั้นต้นนั้นแล้ว คำสั่งนี้ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคแรก
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยและบริวารขนย้ายออกไปจากที่ดินพิพาทและชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินพิพาทพร้อมส่งมอบที่ดินคืนให้โจทก์และใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามฟ้อง
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า เห็นสมควรให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นให้พิจารณาคดีใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ ต่อมาศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งรับอุทธรณ์และมีคำสั่งว่า คำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาโจทก์อุทธรณ์ไม่ได้ ให้เพิกถอนคำสั่งรับอุทธรณ์
โจทก์ อุทธรณ์ คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 มี คำสั่ง ว่า ที่ ศาลชั้นต้น ไม่รับอุทธรณ์ ของ โจทก์ ชอบแล้ว ให้ยก คำร้องขอ งโจทก์
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าโจทก์ฎีกาได้หรือไม่ เห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งรับอุทธรณ์และมีคำสั่งว่า คำสั่งให้พิจารณาคดีใหม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์ยังอุทธรณ์ไม่ได้ซึ่งมีความหมายว่าเป็นการไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์นั้นเอง การที่โจทก์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวจึงเป็นการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ดังนั้นเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งยืนตามคำปฎิเสธของศาลชั้นต้นนั้นแล้ว คำสั่งนี้ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 วรรคแรก ต้องห้ามมิให้ฎีกาศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายกฎีกาของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้โจทก์ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ