คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5296/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การดำเนินกิจการของจำเลยในการให้บริการรับส่งเอกสารและพัสดุภัณฑ์ด่วนพิเศษขึ้นอยู่กับความเชื่อถือของลูกค้าในการให้บริการที่ต้องนำส่งเอกสารและพัสดุภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าอย่างรวดเร็วและถูกต้องเมื่อโจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่มีหน้าที่ดังกล่าวละเลยไม่นำเอกสารไปส่งให้แก่ลูกค้าจำเลยย่อมส่งผลกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือของลูกค้าที่มีแก่บริการรับส่งเอกสารของจำเลยถือว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรงจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า12,869 บาท และค่าชดเชย 21,450 บาท ให้แก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย 21,450 บาท แก่โจทก์คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า การที่โจทก์ละเลยไม่นำเอกสารไปส่งให้แก่ลูกค้าจำเลยซึ่งเป็นการขัดต่อวัตถุประสงค์ของกิจการจำเลยโดยตรงที่ประกอบกิจการรับส่งเอกสารและพัสดุภัณฑ์ด่วนพิเศษให้แก่ลูกค้าลูกค้าต้องขาดความเชื่อถือจำเลยและหันไปใช้บริการส่งเอกสารของรัฐหรือบริษัทอื่นที่ให้บริการในราคาถูกกว่าหรือเท่ากับราคาของจำเลย แต่มีความรวดเร็วและน่าเชื่อถือมากกว่าจำเลยจะถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่ ปัญหานี้ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยประกอบกิจการให้บริการรับส่งเอกสารและพัสดุภัณฑ์ด่วนพิเศษและโจทก์มีหน้าที่โดยตรงในการรับส่งเอกสารดังกล่าวให้แก่ลูกค้าของจำเลยที่ใช้บริการนี้เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม2538 จำเลยได้รับเอกสารจากประเทศแคนาดาเพื่อให้จัดส่งแก่นายพิชัย ซึ่งอยู่ที่บริษัทเซ็นทรัลเจมส์ จำกัดพนักงานแยกเอกสารได้นำเอกสารดังกล่าวไปใส่ในช่องเอกสารของโจทก์พร้อมให้โจทก์นำส่งแก่นายพิชัยแล้วแต่โจทก์ไม่นำส่งจนกระทั่งวันที่ 29 กรกฎาคม 2538 พนักงานของบริษัทเซ็นทรัลเจมส์จำกัด ได้โทรศัพท์ทวงถามเอกสารดังกล่าวแก่จำเลย พนักงานของจำเลยค้นหาเอกสารพบอยู่ในกระเป๋าใส่เอกสารประจำตัวของโจทก์ซึ่งโจทก์ทิ้งไว้ที่บริษัทจำเลยสาเหตุที่โจทก์ไม่ได้ส่งเอกสารรายนี้ให้แก่นายพิชัยเพราะโจทก์ไม่ได้ผ่านไปทางบริษัทเซ็นทรัลเจมส์จำกัด การที่โจทก์ละเลยไม่นำเอกสารไปส่งให้แก่ลูกค้าของจำเลยดังกล่าวเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยบกพร่องและไม่เอาใจใส่ต่อหน้าที่การงานเท่าที่ควร ทั้งเป็นการกระทำอันไม่สมควรแก่การปฎิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต ศาลฎีกาเห็นว่ากิจการของจำเลยในการให้บริการรับส่งเอกสารและพัสดุภัณฑ์ด่วนพิเศษจะดำเนินการอยู่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความเชื่อถือของลูกค้าในการให้บริการของจำเลยที่จะต้องจัดการนำส่งเอกสารและพัสดุภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าอย่างรวดเร็วและถูกต้อง ปรากฎว่าเอกสารของนายพิชัยลูกค้าจำเลยรายนี้ส่งมาถึงจำเลยตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม2538 พนักงานแยกเอกสารได้นำเอกสารดังกล่าวไปใส่ในช่องเอกสารของโจทก์แล้ว แต่โจทก์ละเลยไม่นำเอกสารไปส่งให้แก่ลูกค้าจำเลยจนเป็นเหตุให้ลูกค้าต้องโทรศัพท์ทวงถามเอกสารจากจำเลยในวันที่ 29 กรกฎาคม 2538 จึงได้มีการตรวจค้นพบเอกสารอยู่ในกระเป๋าใส่เอกสารประจำตัวของโจทก์ซึ่งทิ้งไว้ที่บริษัทจำเลย พฤติการณ์การกระทำของโจทก์ย่อมส่งผลกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือของลูกค้าที่มีแก่บริการรับส่งเอกสารของจำเลยเป็นอย่างยิ่งถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานข้อ 70ข้อ 96 และข้อ 99.4 กรณีร้ายแรง จำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(4) ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง

Share