คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5129/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1713หาจำต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายโดยเป็นทายาทโดยตรงของผู้ตายทุกกรณีไม่เมื่อผู้ร้องเป็นบุตรของนายบ. กับนางน. โดยนายบ.อยู่กินฉันสามีภริยากับนางจ.และนางน. ก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ5หลังจากนางน. มารดาผู้ร้องถึงแก่ความตายนายบ. และนางจ. ร่วมกันยึดถือทำกินที่ดินมือเปล่า4แปลงเมื่อนายบ. ถึงแก่ความตายก็ยังไม่มีการแบ่งที่ดินกันแต่ก่อนที่นางจ. จะถึงแก่ความตายได้ขอออกโฉนดในที่ดิน4แปลงดังกล่าวเป็นชื่อของนางจ. เองดังนี้ผู้ร้องจึงมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่งในที่ดินทั้ง4แปลงอันเป็นทรัพย์มรดกของนายบ. และนางจ. ผู้ตายถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1713แล้วผู้ร้องย่อมมีสิทธิร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางจ. ได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า นายบ่าย อิศเรนทร์ บิดาผู้ร้องอยู่กินฉันสามีภริยากับนางเจิม อิศเรนทร์ และนางจีน อิศเรนทร์ก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 นายบ่ายมีบุตรกับนางเจิม 1 คน มีบุตรกับนางจีน 4 คน ผู้ร้องเป็นบุตรซึ่งเกิดจากนายบ่ายและนางจีน นางจีนถึงแก่ความตายมาประมาณ 48 ปี แล้วระหว่างที่นายบ่ายและนางเจิมอยู่กินฉันสามีภริยาได้ร่วมกันสับสร้างที่ดินมือเปล่า 4 แปลง ต่อมาเมื่อ 25 ปีมาแล้ว นายบ่ายถึงแก่ความตาย นางเจิม ผู้ร้องและพี่ผู้ร้องได้ร่วมกันครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวในปี 2515 นางเจิมขอออกโฉนดในที่ดินทั้ง 4 แปลง ไว้แทนทายาทวันที่ 10 ตุลาคม 2532 นางเจิมถึงแก่ความตายนายเบี้ยน อิศเรนทร์ ทายาทนางเจิมป่วยด้วยโรคชรา ไม่อาจมายื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกได้ แต่ยินยอมให้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกเป็นผู้จัดการมรดกนางเจิมผู้ร้องไปติดต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพรขอรับโอนที่ดินมรดกเพื่อนำไปแบ่งปันให้ทายาท แต่เจ้าพนักงานที่ดินไม่สามารถดำเนินการให้ได้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกก่อน นางเจิมมิได้ทำพินัยกรรมหรือแต่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ผู้ร้องเป็นบุคคลที่ไม่ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมายขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกนางเจิม อิศเรนทร์
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ให้ยก คำร้อง
ผู้ร้อง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
ผู้ร้อง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องมีว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของนางเจิม อิศเรนทร์ ผู้ตายตามกฎหมายหรือไม่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 บัญญัติว่า ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกตามมาตรา 1713ดังกล่าวหาจำต้องมีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายโดยเป็นทายาทโดยตรงของผู้ตายทุกกรณีไม่ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ร้องเป็นบุตรของนายบ่าย นายบ่ายและนางเจิมผู้ตายร่วมกันยึดถือทำกินที่ดินมือเปล่า 4 แปลง หลังจากนายบ่ายถึงแก่ความตายก็ยังไม่มีการแบ่งที่ดินดังกล่าว ต่อมาปี 2515 นางเจิมได้ขอออกโฉนดในที่ดินทั้ง 4 แปลงดังกล่าวเป็นชื่อของนางเจิม นางเจิมถึงแก่ความตายเมื่อปี 2532 ดังนี้ ผู้ร้องจึงมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยส่วนหนึ่งในที่ดินทั้ง 4 แปลงอันเป็นทรัพย์มรดกของนายบ่ายและนางเจิมผู้ตาย ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้ว ผู้ร้องย่อมมีสิทธิร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางเจิมผู้ตายได้ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าผู้ร้องมิใช่ทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกของนางเจิมไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกตามกฎหมายนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น เมื่อปรากฏว่านายเบี้ยนบุตรนางเจิมผู้ตายทำหนังสือยินยอมให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกตามเอกสารหมาย ร.7 นอกจากนี้ทายาทของนายบ่ายและนางจีนก็ยินยอมให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกตามเอกสารหมาย ร.9 และมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก ผู้ร้องมิได้เป็นบุคคลที่ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกจึงเห็นสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางเจิมผู้ตาย”
พิพากษากลับ ให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางเจิม อิศเรนทร์ ผู้ตาย โดยให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย

Share