แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าฉางของจำเลยเพื่อใช้เก็บข้าวเปลือกของโจทก์โดยตกลงรับมอบข้าวเปลือกเก็บไว้ในฉางหากเกิดความเสียหายหรือสูญหายขึ้นจำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคาข้าวเปลือกที่ขาดจำนวนไปยกเว้นข้าวเปลือกที่ยุบตัวตามสภาพไม่เกิน2เปอร์เซ็นต์ของจำนวนข้าวทั้งหมดโจทก์หาจำต้องบรรยายมาในฟ้องว่าข้าวที่ขาดจำนวนไปนั้นมีข้าวชนิดใดบ้างมีน้ำหนักจำนวนอย่างละเท่าใดและแต่ละชนิดเป็นราคาเท่าใดเพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์อาจนำสืบในชั้นพิจารณาต่อไปได้ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม สัญญาเช่าฉางเอกชนกำหนดให้จำเลยต้องรับมอบข้าวเปลือกของโจทก์และจัดแบ่งแยกข้าวเปลือกแต่ละชนิดออกเป็นสัดส่วนและเก็บรักษามิให้เปลี่ยนแปลงหรือผิดไปจากสภาพเดิมหากเกิดความเสียหายสูญหายจำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคาข้าวเปลือกที่ผิดชนิดหรือขาดจำนวนเข้าลักษณะเป็นสัญญาฝากทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา657
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าฉางของจำเลยเพื่อใช้เก็บข้าวเปลือกของโจทก์ โดยจำเลยตกลงรับมอบข้าวเปลือกเข้าเก็บไว้ในฉางจำนวน 508,421.22 กิโลกรัมหากเกิดความเสียหายหรือสูญหายขึ้น จำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคาข้าวเปลือกที่ขาดจำนวนไป ยกเว้นข้าวเปลือกที่ยุบตัวตามสภาพ ต่อมาโจทก์แจ้งให้จำเลยส่งมอบข้าวเปลือกดังกล่าวให้แก่ผู้มีชื่อ แต่จำเลยส่งมอบให้เพียง 362,594 กิโลกรัมข้าวเปลือกขาดจำนวน 145,827.22 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อมีหักน้ำหนักข้าวเปลือกที่ยุบตัวออกแล้วข้าวเปลือกยังขาดอยู่อีกจำนวน135,658.80 กิโลกรัม ราคา 372,277.92 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 372,277.92 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยไม่เคยทำสัญญารับฝากข้าวเปลือกจากโจทก์ แต่ได้ทำสัญญาให้โจทก์เช่าฉางของจำเลยเพื่อเก็บรักษาข้าวเปลือกของโจทก์ต่อมาเกิดพายุฝนตกนอกฤดูกาล เป็นเหตุสุดวิสัยทำให้ข้าวเปลือกในฉางบางส่วนถูกน้ำได้รับความเสียหาย จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ หากโจทก์เสียหายก็ไม่เกิน 30,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน372,277.92 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าฉางของจำเลยเพื่อใช้เก็บข้าวเปลือกของโจทก์ โดยตกลงรับมอบข้าวเปลือกเก็บไว้ในฉาง หากเกิดความเสียหายหรือสูญหายขึ้นจำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคาข้าวเปลือกที่ขาดจำนวนไปยกเว้นข้าวเปลือกที่ยุบตัวตามสภาพไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนข้าวทั้งหมด จำเลยได้รับมอบข้าวเปลือก 4 ชนิดตามที่โจทก์รับซื้อ จำนวน 508,421.22 กิโลกรัมต่อมาจำเลยส่งมอบข้าวเปลือกให้เพียง 362,594 กิโลกรัม ข้าวเปลือกขาดจำนวนไป 145,827.22 กิโลกรัม เมื่อหักน้ำหนักของข้าวเปลือกที่ยุบตัว 2 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนข้าวทั้งหมดตามสัญญาจำนวน 10,168.42 กิโลกรัมออกแล้ว ยังคงขาดข้าวเปลือกจำนวน 135,658.80 กิโลกรัม ราคา 372,277.92 บาทจำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคาข้าวเปลือกจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์คำบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าวจึงได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา และข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสองแล้ว โจทก์หาจำต้องบรรยายมาในฟ้องว่าข้าวที่ขาดจำนวนไปนั้นมีข้าวชนิดใดบ้างมีน้ำหนักจำนวนอย่างละเท่าใด และแต่ละชนิดเป็นราคาเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์อาจนำสืบในชั้นพิจารณาต่อไปได้ ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
สัญญาเช่าฉางเอกชนมีข้อสำคัญกำหนดให้จำเลยต้องรับมอบข้าวเปลือกของโจทก์และจัดแบ่งแยกข้าวเปลือกแต่ละชนิดออกเป็นสัดส่วน และเก็บรักษาข้าวเปลือกตามชนิด จำนวน น้ำหนักมิให้เปลี่ยนแปลงหรือผิดไปจากสภาพเดิม ถ้าเกิดความเสียหายหรือสูญหายขึ้น จำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคาข้าวเปลือกที่ผิดชนิดหรือขาดจำนวนไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ยกเว้นข้าวเปลือกที่ยุบตัวตามสภาพไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนข้าวทั้งหมดหรือเกิดจากเหตุสุดวิสัย และให้จำเลยส่งมอบข้าวเปลือกของโจทก์ตามคำสั่งของโจทก์ทันที ข้อสัญญาดังกล่าวเป็นข้อสัญญาที่เข้าลักษณะของสัญญาฝากทรัพย์ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657
พิพากษายืน