คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4939/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่1ฎีกาว่าจำเลยที่2สั่งซื้อน้ำมันจากโจทก์เป็นการส่วนตัวมิได้รับมอบหมายจากจำเลยที่1จำเลยที่1จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าน้ำมันให้แก่โจทก์โดยยกเหตุผลที่มิได้ให้การต่อสู้ไว้ข้ออ้างดังกล่าวจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่นและอื่น ๆ ระหว่างเดือนเมษายน 2533 ถึงเดือนตุลาคม2533 จำเลยที่ 1 ได้มอบให้จำเลยที่ 2 จัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามภารกิจของหน่วยเฉพาะกิจจากโจทก์ไปรวม 17 ครั้ง คิดเป็นเงิน 1,732,896.37 บาทจำเลยได้รับสินค้าจากโจทก์ไปครบถ้วนแล้ว แต่เมื่อถึงกำหนดจำเลยชำระราคาให้โจทก์เพียง 83,520 บาท ยังค้างอยู่ 1,649,376.37 บาทโจทก์ทวงถามจำเลยก็ขอผัดผ่อน โดยเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2534จำเลยที่ 2 มีหนังสือขอผัดการชำระหนี้ที่ค้างออกไปอีก 30 วันแต่แล้วจำเลยก็ไม่ชำระ โจทก์มอบให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวทวงถาม จำเลยทั้งสองก็เพิกเฉย โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีถึงวันฟ้องคิดเป็นเงิน 13,019 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงิน 1,662,395.37 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในเงินต้น 1,649,376.37 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยมอบหมายให้จำเลยที่ 2 ไปจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นจากโจทก์หรือบุคคลใดการซื้อน้ำมันตามที่โจทก์ฟ้องเป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 1,649,376.37 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 29มีนาคม 2534 จนกว่าจะชำระเสร็จ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า จำเลยที่ 2สั่งซื้อน้ำมันจากโจทก์เป็นการส่วนตัว มิได้รับมอบหมายจากจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ไม่ได้ชำระค่าน้ำมันให้แก่โจทก์ติดต่อกันเป็นเวลานานประมาณ 6 เดือน ผิดข้อตกลงที่จำเลยที่ 2 ตกลงกับโจทก์ว่าต้องชำระค่าน้ำมันให้แก่โจทก์ภายใน 1-2 เดือน โจทก์ควรยุติไม่ส่งมอบน้ำมันให้แก่จำเลยที่ 2 ต่อไป หรือแจ้งให้จำเลยที่ 1 ทราบตั้งแต่ต้น เพื่อจำเลยที่ 1 จะได้ยอมรับหรือปฏิเสธการกระทำของจำเลยที่ 2 การที่โจทก์ยอมผ่อนเวลาชำระราคาน้ำมันให้แก่จำเลยที่ 2 โดยพลการ แสดงว่าจำเลยที่ 2 สั่งซื้อน้ำมันจำนวนดังกล่าวจากโจทก์เป็นการส่วนตัวมิได้รับมอบหมายจากจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าน้ำมันให้แก่โจทก์นั้น เห็นว่า ข้ออ้างดังกล่าวเป็นข้อที่จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายก ฎีกา ของ จำเลย ที่ 1

Share