คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ข้อตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมและแบ่งหักทางฯจำเลยที่1ถึงที่3มิได้ประสงค์จะให้ที่ดินที่แบ่งแยกเป็นทางนั้นตกเป็นของผู้หนึ่งผู้ใดในระหว่าง เจ้าของรวมด้วยกันจำเลยที่1ทำสัญญาประนีประนอมยอมความยกที่ดินที่มี กรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยที่2และที่3ให้แก่โจทก์นอกจากจะระบุเนื้อที่ดินที่จะยกให้ว่ามีเนื้อที่385ตารางวาแล้วยังกำหนดด้วยว่ายอมให้ทำถนนผ่านกว้าง3เมตรตามแผนที่ท้ายสัญญายอมที่สัญญายอมระบุว่าจำเลยที่1ยกที่ดินให้โจทก์385ตารางวาจึงเป็นเพียงการกะประมาณเนื้อที่ไว้มิได้รวมถึงที่ดินแปลงที่ระบุว่าหักทางด้วยแต่อย่างใดจำเลยที่1แบ่งแยกที่ดินให้เป็นไปตามแผนที่และจดทะเบียนยกให้เป็นทางสาธารณประโยชน์ จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนสัญญาประนีประนอมยอมความ

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น เจ้าของ ที่ดิน ร่วม กับ จำเลย ที่ 2 และ ที่ 3โดย ได้รับ การ ยกให้ จาก จำเลย ที่ 1 ตาม สัญญา ประนีประนอม ยอมความใน คดีแพ่ง ของ ศาลชั้นต้น จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ได้ สมคบ กัน ทำนิติกรรมยก ที่ดิน แปลง ดังกล่าว เป็น ส่วน ของ โจทก์ เนื้อที่ ประมาณ 20 ตารางวาให้ เป็น ทาง สาธารณประโยชน์ โดย จำเลย ที่ 4 เป็น ผู้รับจดทะเบียนขอให้ พิพากษา ว่า นิติกรรม ดังกล่าว เป็น โมฆะ ให้ เพิกถอน นิติกรรมดังกล่าว หรือ เพิกถอน ใน ส่วน ของ โจทก์
จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ให้การ ว่า การ ทำนิติกรรม ดังกล่าว เป็น การปฏิบัติ ตาม สัญญา ประนีประนอม ยอมความ ไม่เป็น โมฆะ ขอให้ ยกฟ้อง
จำเลย ที่ 4 ให้การ ว่า โจทก์ มิใช่ เจ้าของ ที่ดิน โฉนด ที่ดินมี ชื่อ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 เป็น เจ้าของ เท่านั้น การ ที่ จำเลย ที่ 1ยก ที่ดิน ให้ โจทก์ ตาม สัญญา ประนีประนอม ยอมความ ยัง ไม่ได้ จดทะเบียนไม่มี ผล สมบูรณ์ ตาม กฎหมาย จำเลย ที่ 4 จดทะเบียน ให้ ตาม ความ ประสงค์ของ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ซึ่ง เป็น เจ้าของ ที่ดิน เป็น การ ปฏิบัติหน้าที่ ตาม กฎหมาย โจทก์ ไม่มี อำนาจฟ้อง ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “มี ปัญหา ต้อง วินิจฉัย ว่า การ ที่ จำเลยที่ 1 ถึง ที่ 3 ทำนิติกรรม จดทะเบียน ยก ที่ดินพิพาท ให้ เป็นทาง สาธารณประโยชน์ ดังกล่าว เป็น การ ฝ่าฝืน สัญญา ประนีประนอม ยอมความอัน จะ ทำให้ โจทก์ ขอให้ เพิกถอน ได้ หรือไม่ ได้ความ ว่า ก่อน ที่ จำเลยที่ 1 จะ ทำ สัญญา ประนีประนอม ยอมความ กับ โจทก์ ใน คดีแพ่ง หมายเลขแดงที่ 1568/2531 ของ ศาลชั้นต้น จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ได้ ยื่น คำขอรังวัด แบ่งแยก ที่ดินพิพาท ต่อ เจ้าพนักงาน ที่ดิน และ ทำ บันทึก ข้อตกลงแบ่ง กรรมสิทธิ์รวม และ แบ่ง หัก ทาง ฯ ตาม เอกสาร หมาย ล. 1 ว่าจำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ตกลง แบ่ง ส่วน ที่ดินพิพาท ออกจาก กัน คือ แบ่ง2 แปลง ทาง ด้าน ทิศใต้ และ แบ่ง หัก ทาง ฯ 1 แปลง แปลง ที่ 1 เป็น ของจำเลย ที่ 2 แปลง ที่ 2 เป็น ของ จำเลย ที่ 3 และ แปลง คงเหลือ เป็น ของจำเลย ที่ 1 ดัง ปรากฏ ตาม รูป แผนที่ ท้าย คำขอ เห็นว่า ตาม ข้อตกลงแบ่ง กรรมสิทธิ์รวม และ แบ่ง หัก ทาง ฯ ตาม เอกสาร หมาย ล. 1 ดังกล่าวจำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 มิได้ ประสงค์ ที่ จะ ให้ ที่ดิน ที่ แบ่งแยก เป็นทาง นั้น ตกเป็น ของ ผู้หนึ่ง ผู้ใด ใน ระหว่าง เจ้าของรวม ด้วยกัน แม้ การรังวัด จะ ยัง ทำ ไม่ได้ แต่ ข้อตกลง ดังกล่าว ก็ ผูกพัน จำเลย ที่ 1 ถึงที่ 3 ต่อมา เมื่อ จำเลย ที่ 1 ทำ สัญญา ประนีประนอม ยอมความ ยก ที่ดินพิพาท ให้ โจทก์ ใน คดีแพ่ง หมายเลขแดง ที่ 1568/2531 สัญญา ประนีประนอมยอมความ ของ ศาลชั้นต้น นั้น นอกจาก จะ ระบุ เนื้อที่ ที่ดิน ที่ จะ ยกให้แก่ โจทก์ ว่า มี เนื้อที่ 385 ตารางวา แล้ว ยัง กำหนด ด้วย ว่า ยอม ให้ทำ ถนน ผ่าน กว้าง 3 เมตร รายละเอียด ปรากฏ ตาม แผนที่ ท้าย สัญญา ยอมโดย แผนที่ ท้าย สัญญา ประนีประนอม ยอมความ นั้น มี การ แบ่ง ที่ดินพิพาทออก เป็น 4 แปลง ที่ดิน แปลง ที่ 1 อยู่ ตรง กลาง ระบุ ชื่อ จำเลย ที่ 2ที่ดิน แปลง ที่ 2 อยู่ ด้าน ทิศใต้ ระบุ ชื่อ จำเลย ที่ 3 ที่ดิน แปลง ที่ 3อยู่ ด้าน ทิศตะวันตก มี ข้อความ ระบุ ว่า หัก ทาง ฯ ที่ดิน ที่ เหลือ อยู่ด้าน ทิศเหนือ ติด ทางสาธารณะ ระบุ ชื่อ จำเลย ที่ 1 ตรง ตาม ข้อตกลงแบ่ง กรรมสิทธิ์รวม และ แบ่ง หัก ทาง ระหว่าง จำเลย ที่ 1 ถึง จำเลย ที่ 3เอกสาร หมาย ล. 1 น่าเชื่อ ว่า จำเลย ที่ 1 มิได้ มี เจตนา ยก ที่ดิน แปลงที่ ระบุ ว่า หัก ทาง ฯ ใน แผนที่ ท้าย สัญญา ประนีประนอม ยอมความ ให้ แก่โจทก์ เพราะ จะ เป็น การ ผิด ข้อตกลง ที่ จำเลย ที่ 1 ได้ ทำ ไว้ กับ จำเลย ที่ 2และ ที่ 3 ตาม เอกสาร หมาย ล. 1 ทั้ง ตาม สัญญา ประนีประนอม ยอมความข้อ 2 นั้น เป็น กรณี ที่ จำเลย ที่ 1 ยก ที่ดิน ที่ จำเลย ที่ 1 มีกรรมสิทธิ์ร่วม กับ จำเลย ที่ 2 และ ที่ 3 ให้ แก่ โจทก์ ข้อความ ในสัญญา ประนีประนอม ยอมความ ที่ ว่า ยอม ให้ ทำ ทางผ่าน กว้าง 3 เมตรรายละเอียด ปรากฏ ตาม แผนที่ ท้าย สัญญา ยอม จึง มิใช่ เป็น เรื่อง ที่โจทก์ ยอม ให้ ทำ ทางผ่าน ที่ดิน ของ ตน หาก เมื่อ ได้ พิเคราะห์ แผนที่ท้าย สัญญา ประนีประนอม ยอมความ ประกอบ ข้อความ ใน สัญญา ประนีประนอม ยอมความที่ ว่า รายละเอียด ปรากฏ ตาม แผนที่ ท้าย สัญญา ยอม เป็น ไป ตาม ที่เจ้าพนักงาน รังวัด โดย แบ่ง เท่า ๆ กัน แล้ว เห็นว่า ที่ สัญญาประนีประนอม ยอมความ ระบุ ว่า จำเลย ที่ 1 ยก ที่ดิน ให้ โจทก์ เนื้อที่385 ตารางวา เป็น เพียง การ กะ ประมาณ เนื้อที่ ไว้ โดย ที่ดิน ที่ จำเลยที่ 1 ยกให้ โจทก์ ต้อง เป็น ไป ตาม แผนที่ ท้าย สัญญา ประนีประนอม ยอมความคือ แปลง ที่ ระบุ ชื่อ จำเลย ที่ 1 ซึ่ง เมื่อ รังวัด แล้ว ที่ดิน ที่ จำเลยที่ 1 ยกให้ โจทก์ จะ มี เนื้อที่ เท่ากับ ที่ดิน ส่วน ที่ เป็น ของ จำเลยที่ 2 และ ที่ 3 โดย ที่ดิน ที่ จำเลย ที่ 1 ยกให้ โจทก์ มิได้ รวม ถึงที่ดิน แปลง ที่ ระบุ ว่า หัก ทาง ฯ ใน แผนที่ ท้าย สัญญา ประนีประนอม ยอมความด้วย แต่อย่างใด ฉะนั้น เมื่อ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 3 ได้ ขอ รังวัด แบ่งแยกที่ดินพิพาท ให้ เป็น ไป ตาม แผนที่ ท้าย สัญญา ประนีประนอม ยอมความโดย แบ่ง เป็น ส่วน ของ จำเลย ที่ 1 ที่ จะ ยกให้ โจทก์ เนื้อที่ 3 งาน65 ตารางวา เป็น ส่วน ของ จำเลย ที่ 2 เนื้อที่ 3 งาน 64 ตารางวาเป็น ส่วน ของ จำเลย ที่ 3 เนื้อที่ 3 งาน 65 ตารางวา และ จดทะเบียนยกให้ เป็น ทาง สาธารณประโยชน์ 66 ตารางวา ตาม โฉนด ที่ดิน เอกสาร หมายจ. 1 จึง ไม่เป็น การ ฝ่าฝืน สัญญา ประนีประนอม ยอมความ มิได้ ทำให้โจทก์ เสียเปรียบ หรือ เสียหาย โจทก์ ไม่มี สิทธิ ขอให้ เพิกถอน ศาลล่างทั้ง สอง พิพากษา ชอบแล้ว ฎีกา ของ โจทก์ ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share