แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยถีบผู้ตายตกลงไปในแม่น้ำตรงที่ลึกประมาณครึ่งตัวผู้ตายแล้วใช้แผ่นซีเมนต์ขนาดกว้าง10นิ้วยาว1ฟุตหนา2นิ้วทุ่มใส่ถูกศีรษะผู้ตายในระยะใกล้ขณะที่ผู้ตายกำลังจะปีนขึ้นมาบนฝั่งเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับบาดเจ็บถึงหมดสติจมน้ำตายแม้บาดแผลภายนอกจะเป็นแผลถลอกที่ศีรษะและแพทย์ให้ความเห็นว่าผู้ตายจมน้ำตายแต่การตายเกิดจากการทำร้ายของจำเลยโดยตรงจำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าการทุ่มแผ่นซีเมนต์ดังกล่าวจะทำให้ผู้ตายได้รับอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บและตายได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือรักษาให้ทันท่วงทีถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายไม่ใช่เพียงเจตนาทำร้ายร่างกาย
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ริบของกลาง
จำเลย ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290 ให้ จำคุก 3 ปี คำรับ ชั้น จับกุม สอบสวน และ ทางนำสืบ จำเลยเป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณา มีเหตุ บรรเทา โทษ สมควร ลดโทษ ให้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่ง ใน สาม คง จำคุก มี กำหนด 2 ปีริบของกลาง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษาแก้ เป็น ว่า จำเลย มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำคุก 15 ปี จำเลย ให้การรับสารภาพเป็นเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คง จำคุก 7 ปี 6 เดือน ริบของกลาง
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “พิเคราะห์ แล้ว ข้อเท็จจริง ใน เบื้องต้นที่ จำเลย มิได้ ฎีกา โต้แย้ง หรือ คัดค้าน ฟัง เป็น ยุติ ว่า ตาม วัน เวลาเกิดเหตุ จำเลย ถีบ ผู้ตาย ตกลง ไป ใน แม่น้ำ ปัตตานี แล้ว ใช้ แผ่น ซีเมนต์ ที่ มี ขนาด กว้าง 10 นิ้ว ยาว 1 ฟุต หนา 2 นิ้ว ทุ่ม ใส่ ศีรษะ ผู้ตายขณะ อยู่ ใน แม่น้ำ ปัตตานี เป็นเหตุ ให้ ผู้ตาย จม น้ำ ถึงแก่ความตาย คดี มี ปัญหา ที่ จะ ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา จำเลย ว่า จำเลย มี เพียง เจตนาทำร้ายร่างกาย ผู้ตาย จริง หรือไม่ โจทก์ มี นาย เชาว์ ผลาผล พยาน ผู้รู้เห็น เหตุการณ์ เบิกความ ว่า เมื่อ ได้ยิน เสียง ผู้ตาย ตกลง ไปใน แม่น้ำ ได้ หัน ไป มอง เห็น ผู้ตาย ยืน ร่างกาย พ้น ระดับ น้ำ ประมาณ ครึ่ง ตัวและ จำเลย ได้ ใช้ แผ่น ซีเมนต์ ทุ่ม ไป บน ศีรษะ ผู้ตาย ผู้ตาย จม น้ำ หาย ไปและ ร้อยตำรวจเอก ปฐม ธรรมเศก ร้อยเวร ผู้รับแจ้งความ ได้ ไป ที่ เกิดเหตุ และ สอบถาม จำเลย ใน ที่เกิดเหตุ เบิกความ ว่า จำเลย ให้การ ว่าจำเลย ได้ ถีบ ผู้ตาย ตกลง ไป ใน แม่น้ำ ปัตตานี ใช้ แผ่น ซีเมนต์ ทุบ ศีรษะ ผู้ตาย 1 ครั้ง เมื่อ ผู้ตาย จะ ปีน ตลิ่งขึ้น มา จำเลย ได้ ใช้ แผ่น ซีเมนต์ทุบ ไป บน ศีรษะ ผู้ตาย อีก 1 ครั้ง เป็นเหตุ ให้ ผู้ตาย จม ลง ไป ใน แม่น้ำประกอบ ทั้ง จำเลย ได้ ให้การ ใน ชั้นสอบสวน ว่า จำเลย ถีบ ผู้ตาย ลง ไป ใน แม่น้ำเมื่อ ผู้ตาย จะ ปีน ขึ้น มา บน ฝั่ง จำเลย ได้ ใช้ แผ่น ซีเมนต์ ตี ซ้ำ 1 ครั้งเห็นว่า จาก คำให้การ ของ พยานโจทก์ และ คำให้การ ใน ชั้นสอบสวน ของ จำเลยดังกล่าว แม่น้ำ ตรง ที่ ผู้ตาย ตกลง ไป ลึก ประมาณ ครึ่ง ตัว ผู้ตาย เท่านั้นจำเลย ใช้ แผ่น ซีเมนต์ ทุ่ม ลง ไป บน ศีรษะ ผู้ตาย ใน ระยะ ใกล้ ใน ขณะที่ผู้ตาย กำลัง จะ ปีน ขึ้น มา บน ฝั่ง แผ่น ซีเมนต์ ยาว 1 ฟุต กว้าง 10 นิ้วหนา 2 นิ้ว เป็น แผ่น ซีเมนต์ ที่ มี ขนาด ใหญ่ มาก และ เป็น แผ่น ซีเมนต์ที่ ได้ มาจาก การ ชำรุด ของ ถนน ดัง ปรากฏ ตาม ภาพถ่าย หมาย จ. 7 ภาพ ที่ 8และ 5 แผ่น ซีเมนต์ ดังกล่าว น่า จะ ถูก ศีรษะ ผู้ตาย อย่าง แรง เป็นเหตุ ให้ผู้ตาย ได้รับ บาดเจ็บ ถึง หมด สติ จม น้ำ ตาย แม้ บาดแผล ภายนอก จะ เป็นแผล ถลอก ที่ ศีรษะ และ แพทย์ ให้ ความเห็น ว่า ผู้ตาย จม น้ำ ตาย ก็ ตามแต่ การ ตาย ของ ผู้ตาย เกิดเหตุ จาก การ ทำร้าย ของ จำเลย โดยตรง แผ่น ซีเมนต์มี ขนาด ใหญ่ และ แข็ง มาก จำเลย ย่อม เล็งเห็นผล ได้ว่า การ ทุ่ม แผ่น ซีเมนต์ดังกล่าว ลง ไป บน ศีรษะ จะ ทำให้ ผู้ตาย ได้รับ อันตรายแก่กาย ถึง บาดเจ็บและ ตาย ได้ หาก ไม่ได้ รับ การ ช่วยเหลือ หรือ รักษา ให้ ทันท่วงที การกระทำของ จำเลย จึง ถือได้ว่า จำเลย มี เจตนาฆ่า ผู้ตาย ไม่ใช่ มี เพียง เจตนาทำร้ายร่างกาย เท่านั้น จำเลย จึง มี ความผิด ฐาน ฆ่า ผู้อื่น โดย เจตนาที่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษา ลงโทษ จำเลย มา นั้น ชอบแล้ว ฎีกา จำเลยฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน