คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1722/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่มีข้อความว่าผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้จากทรัพย์สินอื่นๆของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาแต่ผู้ร้องได้อ้างในคำร้องว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาได้สืบทราบว่าโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยและได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยเสร็จเรียบร้อยแล้วถือได้ว่าเป็นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่สมบูรณ์แล้วไม่เคลือบคลุมส่วนผู้ร้องจะสามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลยได้หรือไม่เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณา

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระเงินจำนวน 208,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2533 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมโจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 91 ตำบลพลวง อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรีต่อมาวันที่ 17 ตุลาคม 2534 โจทก์ประมูลซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวได้ในราคา 15,000 บาท
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 682/2534 เป็นจำนวน 939,000บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 26 มีนาคม2533 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินของจำเลยและขายทอดตลาดแล้ว จึงขอให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลย
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า คำร้องของผู้ร้องไม่ได้กล่าวว่าผู้ร้องไม่อาจเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลยได้อีก เป็นคำร้องที่ไม่ครบหลักเกณฑ์ที่จะยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ ถือว่าเป็นคำร้องที่ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเฉลี่ยเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ฎีกาข้อแรกว่า คำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่มีข้อความว่าผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้จากทรัพย์สินอื่น ๆของจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา เป็นคำร้องที่เคลือบคลุมเห็นว่า ผู้ร้องได้อ้างในคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาได้สืบทราบว่าโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลย และได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่สมบูรณ์แล้วไม่เคลือบคลุม ส่วนผู้ร้องจะสามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของจำเลยได้หรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณาฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share