คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3697/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

เงื่อนไขหลังสลากที่ว่าเงินรางวัลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือสลากที่ถูกรางวัลนำมาขอรับนั้นเป็นเพียงข้อกำหนดให้มีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัลไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหายไปหากโจทก์มีหลักฐานเชื่อได้ว่าโจทก์ถูกรางวัลแต่สลากหายจำเลยก็ต้องจ่ายเงินให้ ค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับตามระเบียบของการสื่อสารแห่งประเทศไทยเนื่องจากพัสดุไปรษณีย์สูญหายเป็นคนละอย่างกับสิทธิเรียกร้องรับเงินรางวัลจากสลากที่ถูกรางวัลแล้วสูญหายไป.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจากผู้ถูกรางวัลในจังหวัดภูเก็ตรวม135 ฉบับและส่งทางพัสดุไปรษณีย์จากจังหวัดภูเก็ตไปให้นางสาวสะเรียง อัศววุฒิพงษ์ตัวแทนโจทก์ เพื่อให้รับเงินรางวัลจากจำเลยทั้งสิ้น 69,100 บาท แต่สลากดังกล่าวสูญหายไป โจทก์แจ้งอายัดสลากที่ถูกรางวัลตามระเบียบของจำเลยแล้ว จำเลยไม่จ่ายเงินให้โจทก์ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีผู้รับเงินรางวัลในสลากที่ถูกรางวัลนั้น จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 23 กันยายน2524 ถึงวันฟ้องเป็นเงิน 6,900 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 75,900 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน 69,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำชำระเงินเสร็จ จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้รับซื้อสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลไม่ใช่ผู้ค้าสลากกินแบ่งและรับซื้อราลวัลเพราะมิได้จดทะเบียนเป็นผู้ค้าสลากและรับซื้อรางวัลไว้กับจำเลยเป็นแต่เพียงรับสลากกินแบ่งของจำเลยไปขาย โจทก์มีสิทธิเพียงถูกรางวัลในสลากที่ขายไม่หมดและอยู่ในความครอบครองของโจทก์เท่านั้น โจทก์ไม่มีสลากที่ถูกรางวัลมาแสดงขอรับเงินรางวัลตามเงื่อนไขการจ่ายเงินรางวัลที่กำหนดไว้ในสลาก จำเลยไม่ทราบว่าสลากดังกล่าวเป็นสลากที่ถูกรางวัลแท้จริงที่จำเลยพิมพ์ออกจำหน่าย และโจทก์เป็นเจ้าของสลากนั้นหรือไม่การรับแจ้งอายัดสลากที่ถูกรางวัลสูญหายของจำเลยก็เพื่อระงับการจ่ายเงินรางวัลและหาเจ้าของอันแท้จริงเท่านั้น ความเสียหายของโจทก์เกิดจากการกระทำของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ชอบที่จะเรียกร้องเอาจากผู้ที่ทำให้โจทก์เสียหาย ฯลฯ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า โจทก์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งตามฟ้องและสลากได้หายไป จำเลยจึงต้องจ่ายเงินรางวัลให้โจทก์ แต่ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่วันที่23 กันยายน 2524 พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 69,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่า การจ่ายเงินตามฟ้องจะต้องหักค่าอากร ณ ที่จ่ายร้อยละ50 สตางค์ เป็นเงิน 345 บาทตามที่โจทก์เบิกความรับไว้พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยชำระเงิน 68,655 บาทแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ไม่มีระเบียบห้ามการรับซื้อสลากที่ถูกรางวัล การรับเงินสลากที่ถูกรางวัลจำนวนมาก ๆ ฉบับก็ทำได้ โจทก์ไม่จำต้องทำสํญญาหรือจดทะเบียนในการรับซื้อสลากที่ถูกรางวัล โจทก์เป็นเจ้าของสลากที่แจ้งอายัดไว้ วินิจฉัยข้อกฎหมายว่า โจทก์แจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่าสลากที่ถูกรางวัลสูญหาย จนจำเลยรับอายัดสลากจำนวนดังกล่าวตามเอกสารหมาย ล.5 ไว้แล้ว ย่อมมไ่มีสลากตัวจริงมาแสดงให้จำเลยพิสูจน์ มิฉะนั้นก็ย่อมจะไม่ต้องมาขออายัด เงื่อนไขหลังสลากที่ว่า เงินรางวัลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือสลากที่ถูกรางวัลนำมาขอรับนั้น เป็นเพียงข้อกำหนดให้มีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัล ไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหายไป ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ได้รับค่าเสียหายจากการสื่อสารแห่งประเทศไทยแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยอีกนั้น เห็นว่าค่าเสียหายที่โจทก์ได้ไปดังกล่าว เป็นค่าเสียหายเนื่องจากพัสดุไปรษณีย์สูญหายโดยได้รับตามระเบียบของการสื่อสารแห่งประเทศไทย เป็นคนละอย่างกับสิทธิเรียกร้องรับเงินรางวัลจากสลากที่ถูกรางวัลแล้วสูญหายไป โจทก์จึงมีสิทธิเรียกเอาจากจำเลยได้ พิพากษายืน

Share