คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2858/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินซึ่งจำเลยได้รับชำระหนี้ในคดีอื่นไว้เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่อายัดแก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ไปต้องคิดค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีในการจ่ายเงินที่อายัดแก่โจทก์เจ้าหนี้ในอัตราร้อยละ3ครึ่งของจำนวนเงินที่อายัดตามตาราง5ข้อ2ท้ายป.วิ.พ.คำว่า”จำหน่าย”หามีความหมายเพียงการขายอย่างเดียวไม่แต่ยังหมายถึง”จ่ายแจกแลกเปลี่ยนเอาออกใช้หรือให้”ด้วยการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่อายัดแก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เป็นการจำหน่ายเงินที่อายัดแล้ว”.

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งห้าชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ในชั้นบังคับคดีเจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินซึ่งจำเลยที่ 3 ที่ 5 ได้รับชำระหนี้จากบริษัทเครดิตฟองซิเอร์กรุงเทพเคหะจำกัดจำนวน 243,268.93 บาท ชำระหนี้แก่โจทก์ครบแล้วและคิดค่าธรรมเนียมอายัดในอัตราร้อยละ 3 ครึ่งของจำนวนเงินที่จ่ายชำระหนี้แก่โจทก์ไปเป็นค่าธรรมเนียมอายัด 8,514.40 บาท
จำเลยที่ 3 ที่ 5 คัดค้านว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีคิดค่าธรรมเนียมไม่ถูกต้องและที่ถูกจะต้องคิดในอัตราร้อยละ 1 ของเงินจำนวน 243,268.62 บาท ตามตาราง 5 ข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพราะเป็นการอายัดเงินแล้วไม่มีการจำหน่ายขอให้สั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีคิดค่าธรรมเนียมใหม่ และคืนส่วนที่คิดเกินไปให้แก่จำเลยที่ 3 ที่ 5
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่อายัดไว้แก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ขออายัดเจ้าพนักงานบังคับคดีคิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 3 ครึ่งของเงินจำนวน 243,286.62 บาทนั้น ถูกต้องแล้ว ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 3 ที่ 5
จำเลยที่ 3 ที่ 5 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ที่ 5 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตาราง 5 ข้อ 2 และข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง กำหนดค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีไว้มีข้อความว่า “2. จ่ายเงินที่ยึดหรืออายัดแก่เจ้าหนี้ร้อยละ 3 ครึ่งของจำนวนเงินที่ยึดหรืออายัด” และ “4. เมื่อยึดหรืออายัดเงิน หรืออายัดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย ร้อยละ 1ของจำนวนเงินที่ยึดหรืออายัดหรือราคาทรัพย์สินที่อายัด” การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินซึ่งจำเลยที่ 3 ที่ 5 ได้รับชำระหนี้ในคดีหมายเลขแดงที่ 4198/2523 ของศาลแพ่งนั้น เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่อายัดจำนวน 243,268.62 บาท แก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ไป จึงต้องคิดค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีในการจ่ายเงินที่อายัดแก่โจทก์เจ้าหนี้ในอัตราร้อยละ 3 ครึ่งของจำนวนเงิน 243,268.62 บาท ตามข้อ 2 ที่จำเลยที่ 3 ที่ 5 ฎีกาว่าการคิดค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีตามข้อ 2 ต้องเป็นการอายัดสิ่งของ แล้วเจ้าพนักงานบังคับคดีจำหน่ายสิ่งของที่อายัดได้เงินมาจ่ายแก่เจ้าหนี้ ส่วนกรณีคดีนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินแล้วไม่มีการจำหน่ายเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัด จึงต้องคิดค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีตามข้อ 4 นั้น เห็นว่า คำว่า”จำหน่าย” หามีความหมายเพียงการขายอย่างเดียวไม่ แต่ยังหมายถึง”จ่าย แจก แลกเปลี่ยน เอาออกใช้หรือให้” ด้วยการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่อายัดจำนวน 243,268.63 บาท แก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เป็นการจำหน่ายเงินที่อายัดแล้ว ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีคิดค่าธรรมเนียมการจ่ายเงินที่อายัดตามข้อ 2 จึงถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบด้วยรูปคดีแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 3 ที่ 5 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน”.

Share