แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
พี่ชายของผู้เสียหายขอให้จำเลยช่วยสืบหาทรัพย์ที่หายไปจำเลยสืบหาจนรู้ว่าทรัพย์อยู่ที่ไหนและพาผู้เสียหายไปเอาทรัพย์คืนมาได้การที่ผู้เสียหายมอบเงินแก่จำเลยเป็นค่าสินน้ำใจที่จำเลยช่วยเหลือจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาที่จะกระทำความผิดฐานรับของโจรและเมื่อเงินดังกล่าวไม่ใช่เงินค่าไถ่ทรัพย์จำเลยจึงไม่ต้องคืนแก่ผู้เสียหาย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ ลงโทษ จำเลย กระทำ ผิด ฐาน ลักทรัพย์ หรือ รับของ โจร
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา357 ให้ จำคุก 2 ปี คืน ของกลาง ทั้งหมด แก่ ผู้เสียหาย
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ เป็น ว่า ให้ ยกฟ้อง โจทก์ ข้อหา รับ ของ โจรด้วย คืน ของกลาง ให้ ผู้เสียหาย
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ข้อเท็จจริง ได้ ความ ตาม ที่ โจทก์ และ จำเลยนำสืบ ว่า เมื่อ ผู้เสียหาย รู้ ว่า เครื่อง ปั้มน้ำ ของ ตน ได้ หาย ไปและ ไป บอก นาย พลอย พี่ชาย ให้ ช่วย สืบ หา เครื่อง ปั้มน้ำ คืนนาย พลอย ได้ ไป ขอร้อง จำเลย ให้ ช่วย สืบหา ให้ จำเลย ช่วย สืบหาจน รู้ ว่า เครื่อง ปั้มน้ำ ของ ผู้เสียหาย อยู่ ที่ ไหน และ พาผู้เสียหาย ไป เอา เครื่อง ปั้มน้ำ คืน ได้ ผู้เสียหาย ได้ จ่าย เงินให้ แก่ จำเลย จำนวน 1,500 บาท ก็ เพราะ เป็น เงิน ที่ ผู้เสียหายเตรียม ไว้ ให้ คนร้าย เป็น ค่าไถ่ เครื่อง ปั้มน้ำ เมื่อ ผู้เสียหายไม่ พบ คนร้าย จึง ให้ เงิน จำนวน 1,500 บาท แก่ จำเลย เป็น ค่าสินน้ำใจ ที่ จำเลย ช่วยเหลือ ดังนี้ จึง ฟัง ไม่ ได้ ว่า จำเลย มีเจตนา ที่ จะ กระทำ ความผิด จำเลย จึง ไม่ มี ความผิด ฐาน รับ ของโจรตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357
สำหรับ เงิน ของกลาง นั้น ผู้เสียหาย ให้ แก่ จำเลย เป็น สินน้ำใจที่ ช่วยเหลือ ไม่ ใช่ เงิน ค่า ไถ่ ทรัพย์ จึง ไม่ จำต้อง คืน ให้ แก่ผู้เสียหาย
พิพากษา แก้ เป็น ว่า ให้ คืน เงิน ของกลาง ให้ จำเลย นอกจาก ที่ แก้ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์