คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021-1022/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมในการอุทธรณ์ไปอีก 1 เดือน นับแต่วันฟังคำพิพากษา การที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมออกไปอีกหลังจากที่ครบกำหนดเวลาตามที่ศาลอุทธรณ์ได้อนุญาตไว้ในคำพิพากษาแล้วนั้น ไม่ถือเป็นการร้องขอแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่เป็นการขยายเวลาต่อเนื่องจากเวลาที่ศาลอุทธรณ์กำหนดไว้เดิม เป็นการร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 อันเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะพิจารณาได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาคดีทั้งสองสำนวนนี้เข้าด้วยกัน โดยให้เรียกจ่าสิบตำรวจจำรัสเป็นโจทก์ กรมการศาสนา กับพวก เป็นจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จ่าสิบตำรวจจำรัสโจทก์แพ้คดี
โจทก์อุทธรณ์ โดยขออนุญาตขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม ศาลชั้นต้นอนุญาตครบกำหนดเวลาครั้งแรกแล้วขอขยายเวลาไปอีก ศาลชั้นต้นอนุญาต ครบกำหนดเวลาในการอนุญาตครั้งที่สอง ขอขยายเวลาไปอีก ศาลชั้นต้นอนุญาต ครบกำหนดเวลาครั้งที่สามแล้วขอขยายเวลาไปอีก ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและสั่งให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมมาวางศาลในกำหนดมิฉะนั้นถือว่าไม่ติดใจอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นคดีมีทุนทรัพย์สามล้านบาทเศษ ค่าธรรมเนียมที่โจทก์จะต้องนำมาวางเป็นเงินถึงหนึ่งแสนเศษ โจทก์ไม่มีเงินอื่นใดนอกจากที่จะได้รับจากส่วนแบ่งมรดกซึ่งศาลจังหวัดเชียงใหม่กำลังจัดการขายทอดตลาด และจัดการแบ่งแต่ยังไม่เรียบร้อยการล่าช้ามิใช่เกิดจากความผิดของโจทก์ เห็นสมควรขยายเวลาให้โจทก์ พิพากษากลับให้โจทก์ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมในการอุทธรณ์ไปอีก ๑ เดือน นับแต่วันฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นต้นไป
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟังวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน
วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๒๒ โจทก์ยื่นฎีกาขอขยายระยะเวลาในการยื่นอุทธรณ์ของโจทก์ไปอีกระยะหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งว่าหากโจทก์ประสงค์จะขยายเวลาไปออกไปอีกก็ชอบที่จะทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลเพื่อพิจารณาสั่งต่อไป หาใช่หาเป็นฎีกามาเช่นนี้ไม่ ทั้งฎีกาไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แต่ประการใด จึงสั่งไม่รับฎีกา
วันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๒๒ โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ออกไปอีกระยะหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมในการอุทธรณ์ออกไปอีก ๑ เดือน นับแต่วันฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นต้นไป การที่โจทก์ขอขยายเวลาวางเงินต่อไปอีก จึงเท่ากับเป็นการร้องขอแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ไม่อาจสั่งให้ได้ จึงให้ยกคำร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมออกไปอีก ๑ เดือน นับจากวันที่จะครบกำหนดเวลาการที่ศาลอุทธรณ์ได้อนุญาตให้ขยายเวลาไว้ครั้งหนึ่งแล้วนั้นไม่ถือเป็นการร้องขอแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่เป็นการขยายเวลาต่อเนื่องจากเวลาที่ศาลอุทธรณ์ได้กำหนดไว้เป็นการร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ อันเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะพิจารณา
พิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์รับคำร้องของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป

Share