แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างใช้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคนรถให้ขับรถรับหัวหน้าคนงานที่ถนนลาดพร้าวมาปฏิบัติงานที่บริษัทโชคชัย ถนนราชวิถีเมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถออกไปแล้ว แล้วได้เอารถไปเอากางเกงที่ตัดไว้ที่ตลาดบางแคเสียก่อน ระหว่างทางไปชนคนตาย 1 คน บาดเจ็บ 1 คน ดังนี้ จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดด้วย (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)
ย่อยาว
คดี ๒ สำนวน นี้ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ ได้ขับรถยนต์ในทางการที่จ้างด้วยความประมาทชนนางชมมารดาโจทก์ในสำนวนที่ ๑ ตาย และชนโจทก์ในสำนวนที่ ๒ บาดเจ็บสาหัส ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่า เหตุเกิดนอกทางการที่จ้าง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยที่ ๒ ผู้เป็นนายจ้างได้ใช้ให้จำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์จากบริษัทโชคชัย แต่จำเลยที่ ๑ กลับขับรถยนต์ของจำเลยที่ ๒ ไปตามถนนเพชรเกษมโดยพลการเพื่อไปเอากางเกงที่ จำเลยที่ ๑ ว่าจ้างตัดไว้ที่ร้านงามศิลป์ ตลาดบางแค โดยมิได้รับความยินยอมจากจำเลยที่ ๒ แต่อย่างใด แล้วไปชนคนตาย ๑ คน บาดเจ็บ ๑ คน เป็นการกระทำนอกการที่จ้าง เพราะการขับรถไปเอากางเกงไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นนายจ้าง เพราะการขับรถไปเอากางเกง ไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นนายจ้าง จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ ๑ พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในสำนวนที่ ๑ เป็นเงิน ๑๔,๐๐๐ บาท และแก่โจทก์ในสำนวนที่ ๒ เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗๑/๒ ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่า จะใช้เงินเสร็จ และยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ ๒
โจทก์อุทธรณ์ทั้งสองสำนวน ขอให้จำเลยที่ ๒ ร่วมรับผิดด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาเห็นว่า พฤติการณ์ที่จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ ได้นำรถยนต์ขับออกไปจากบ้านจำเลยที่ ๒ ในวันเกิดเหตุก็เนื่องจากได้รับคำสั่งของจำเลยที่ ๒ ผู้เป็นนายให้ขับรถออกจากบ้านเพื่อไปรับนายเข่งหัวหน้างานมาปฏิบัติงาน ซอยโชคชัย ถนนราชวิถี เป็นที่เห็นได้ในเบื้องต้นว่า เป็นเรื่องที่จำเลยที่ ๑ ซึ่งได้กระทำในทางการที่จำเลยที่ ๒ จ้างจำเลยที่ ๑ แม้ถึงว่าในขณะที่จำเลยพ้นจากบ้านจำเลยที่ ๒ ผู้เป็นนายจ้างมาแล้ว จำเลยที่ ๑ จะได้เปลี่ยนเส้นไปบางแค เพื่อเอากางเกงที่จำเลยที่ ๑ ตัดไว้ก็ดี การที่จำเลยที่ ๒ ไว้ใจในการปฏิบัติของจำเลยที่ ๑ หากจำเลยที่ ๒ ทราบความก็คงไม่เอาเรื่องเป็นความผิดร้ายแรงถึงขนาดว่าเป็นการขโมยรถไปใช้เป็นการละเมิดแต่ประการใด กรณีอาจเป็นได้ว่า ได้บอกกล่าวและได้รับอนุมัติจากจำเลยที่ ๒ แล้ว ในการที่จะเอารถไปรับไว้ หรือมิฉะนั้นก็อาจเป็นกรณีที่จำเลยที่ ๑ ถือวิสาสะกระทำไปโดยความ ระหว่างจำเลยทั้งสอง หากเกิดเรื่องเสียจึงบิดเบือนกำความไว้เพื่อจำเลยรับผิดฐานละเมิดต่อโจทก์ก็ได้ การกระทำใดของลูกจ้างจะเป็นการกระทำที่จ้างอันนายจ้างจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๒๕ นั้น ย่อมเป็นที่รู้กัน
ในระหว่างนายจ้างลูกจ้าง ยากที่คนภายนอกจะทราบได้ ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง การกระทำของลูกจ้างหากอยู่ใน แล้ว ก็พึงฟังไว้ก่อนว่า เป็นการกระทำในทางการที่จ้าง เว้นแต่จะปรากฏเหตุ มิฉะนั้น แล้ว การเสียหายซึ่งบุคคลที่ ๓ ได้รับเนื่องจากการกระทำของลูกจ้าง ได้รับการเยียวยาให้ผ่อนคลายลงได้
ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ในกรณีเรื่องนี้ รูปคดีต้องฟังว่า การที่ขับรถเพื่อไปเอากางเกงซึ่งตัดไว้ที่บางแคแล้วเกิดชนคนตายและบาดเจ็บนี้ ที่จำเลยที่ ๑ ได้กระทำไปในทางการที่จำเลยที่ ๒ จ้างจำเลยที่ ๑ จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลย ที่ ๑ ต่อโจทก์ตามฟ้อง
ศาลฎีกาพิพากษาแก้ ศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยที่ ๒ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑