แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บริษัทจำกัด มีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและได้ขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นไป เมื่อได้กำไร กำไรนั้นต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65, 65 ทวิ และ 65 ตรี ด้วย เพราะถือว่าการซื้อขายทรัพย์สินดังกล่าวเป็นกิจการอยู่ภายในขอบวัตถุประสงค์ของบริษัท จึงเป็นกำไรที่ได้มาเนื่องจากกิจการของบริษัท
ย่อยาว
คดีสองสำนวนนี้ ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน
โจทก์แต่ละสำนวนฟ้องว่า กรมสรรพากรได้แจ้งให้โจทก์เสียภาษีเงินได้สำหรับนิติบุคคลเพิ่มโดยถือว่าบริษัทโจทก์ได้ขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีกำไร แต่มิได้นำมาคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี โจทก์ได้อุทธรณ์การประเดิม แต่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ จึงขอให้สั่งเพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานประเมินและผู้วินิจฉัยอุทธรณ์
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่าเงินที่โจทก์ขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นเงินกำไรที่ได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่โจทก์กระทำ จึงต้องเสียภาษีตามมาตรา ๖๕ แห่งประมวลรัษฎากร
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน
โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การซื้อขายทรัพย์สินดังกล่าวย่อมเป็นกิจการอันอยู่ภายในขอบวัตถุประสงค์ของบริษัท การขายทรัพย์สินย่อมคำนวณกำไรและขาดทุนได้ กำไรที่ได้จากการขายทรัพย์สินของบริษัทในคดีนี้จึงเป็นกำไรที่ได้จากการกระทำของบริษัท และเป็นกำไรที่ได้มาเนื่องจากกิจการของบริษัท จึงต้องเสียภาษีตามประมวลรัษฎากร
พิพากษายืน