คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591-592/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เลี่ยนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นโดยเจตนาลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อเป็นผิดตามกฎหมายข้างบน วิธีพิจารณาแพ่ง พะยาน วัตถุพะยาน ดุลยพินิจ เรื่องเลียนเครื่องหมายค้าขาย ศาลมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดโดยอาศัยวัตถุพะยานอย่างเดียวได้โดยไม่ต้องฟังพะยานบุคคล อ้างฎีกาที่ 763/2476 ฎีกาอุทธรณ์ คู่ความเป็นคนบังคับอังกฤษฎีกาได้ฉะเพาะข้อกฎหมายศาลชี้ขาดข้อเท็จจริงโดยอาศัยพะยานหลักฐานในท้องสำนวนทั่ว ๆ ไป แม้ไม่ตรงกับพะยานปาก 1 ก็ไม่ทำให้คดีเป็นข้อกฎหมายข้อที่ว่าควรลงโทษหรือควรรอการลงอาชญาหรือไม่นั้นไม่ใช่ข้อกฎหมาย

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเลียนเครื่องหมายการค้าตามกฎหมายลักษณอาชญามาตรา ๒๓๗-๒๓๘ แลขอให้ใช้ค่าเสียหาย
คดีได้ความว่า บริษัทโจทก์ได้ทำสบู่กรดตราธงออกจำหน่ายในท้องตลาดหลายปีแล้ว จำเลยได้ทสบู่กรดออกจำหน่ายบ้างมีเครื่องหมายการค้าเป็นรูปป้าย ขนาดของสบู่เล็กกว่าของโจทก์เล็กน้อย รูปตราบนก้อนสบู่ของจำเลยนั้นเส้นสันฐานภายนอกเป็นทำนองรูปธงเป็นลักษณะเดียวกันกับรูปธงของโจทก์ นอกจากจะพิจารณาโดยที่ถ้วนจึงจะเห็นว่าเป็นคนละยี่ห้อกับของโจทก์ แลตามคำพะยานปรากฎว่าสบู่ของโจทก์ในท้องตลาดเรียกกันว่าตราธงเก่า สบู่ของจำเลยเรียกกันว่าตราธงใหม่
ศาลล่างทั้ง ๒ เห็นว่าจำเลยมีเจตนาเลียนเครื่องหมายของโจทก์ทำให้คนหลงเชื่อ จึงพิพากษาลงโทษจำคุก ๖ เดือนปรับ ๕๐๐ บาท ตามมาตรา ๒๓๗ แลให้ใช้ค่าเสียหาย ๑๒๐๐ บาท
จำเลยฎีกาว่าศาลล่างพิเคราะห์วัตถุพะยานของกลางแล้วก็ชี้ขาดว่าเป็นการเลียนโดยมิได้หยิบยกคำพะยานในท้องสำนวนขึ้นวินิจฉัยเป็นการมิชอบ แลศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคลาดเคลื่อนจากคำพะยานหลักฐานในท้องสำนวน
ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อศาลได้พิเคราะห์ดูวัตถุพะยานของกลางได้โดยแจ้งขัดแล้วว่าเป็นการเลียงแบบกัน ก็ย่อมวินิจฉัยชี้ขาดได้โดยไม่จำต้องฟังพะยานบุคคล เพราะวัตถุพะยานแสดงให้เห็นได้ดีกว่าพะยานบุคคลแลศาลอุทธรณ์ชี้ขาดข้อเท็จจริงโดยอาศัยพะยานหลักฐานในท้องสำนวนทั่วๆไป ถึงหากจะไม่ตรงกับพะยานโจทก์ปาก ๑ ก็ไม่ทำให้คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนข้อที่จำเลยแถลงการณ์ว่าขอลดโทษหรือรออาชญานั้น จำเลยมิได้กล่าวในฎีกาทั้งไม่เกี่ยวกับข้อกฎหมาย จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share