คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636-1639/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยจากที่ของโจทก์ ชั้นพิจารณาคู่ความตกลงกันว่าโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าต่อไป 2 ปี แม้ในสัญญาประนีประนอมจะมิได้ระบุว่าเมื่อครบ 2 ปีแล้วจำเลยจะต้องยอมออกไปก็ตาม ก็ต้องตีความตามสัญญานั้นว่าเมื่อครบ 2 ปีแล้วจำเลยก็ต้องออกไป

ย่อยาว

คดีนี้เป็นปัญหาชั้นบังคับคดี เดิมโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยจำเลยให้การต่อสู้ ถึงชั้นพิจารณาคู่ความได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า”คู่ความตกลงกันโจทก์ยอมให้จำเลยทุกคนเช่าที่ดินโจทก์ตามฟ้องต่อไปอีก 2 ปี นับแต่วันนี้โดยคิดค่าเช่าปีละ 100 บาทจำเลยยอมวางค่าเช่าล่วงหน้าภายใน 1 เดือนนับแต่วันนี้ ในการเช่าปีแรกครบจำนวน และจะวางค่าเช่าล่วงหน้าปีหลังเมื่อครบ 1 ปี นับแต่วันนี้ สำหรับค่าเช่าที่ค้างนั้น นับตั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีนี้มาจนถึงวันนี้คิดตามอัตราค่าเช่าเดิมในฟ้องซึ่งจำเลยจะไปคิดและชำระให้โจทก์ภายใน 1 เดือนนับแต่วันนี้ ถ้าจำเลยไม่ไปชำระเงินตามสัญญายอมนี้ให้ศาลขับไล่จำเลยทันที เป็นอันเลิกคดีกัน “ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาและบังคับไปตามยอมแล้ว ต่อมาครบ 2 ปีแล้วจำเลยไม่ออกไปจากที่พิพาท โจทก์จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลจับกุมกักขังให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษา

ศาลชั้นต้นสั่งว่าสัญญายอมไม่ได้ระบุว่าถ้าพ้นกำหนดการเช่าแล้วให้ศาลขับไล่ ให้ยกคำร้องเสีย

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่ การที่โจทก์จำเลยทำยอมกันให้จำเลยเช่าต่อไปอีก 2 ปี ก็ต้องตีความว่าโจทก์ยอมผ่อนผันให้จำเลยอยู่ในที่ดินโจทก์อีก 2 ปี เมื่อพ้นกำหนดแล้วก็ต้องออกไปศาลบังคับตามคำพิพากษาท้ายยอมได้พิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นดำเนินการบังคับให้จำเลยออกไปจากที่ดินโจทก์

Share