แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเบิกความเป็นพยานต่อศาลว่าไม่เห็นคนร้ายแตกต่างกับที่ให้การไว้ชั้นสอบสวนว่าเห็น เมื่อจำเลยถูกฟ้องฐานแจ้งความเท็จ จำเลยให้การสู้คดีว่าได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนว่า ไม่เห็นคนร้ายแต่พนักงานสอบสวนจดเอาเองว่าเห็น ไม่ได้อ่านให้จำเลยฟัง จำเลยไม่ได้เถียงว่าคำให้การชั้นสอบสวนที่ว่าเห็นนั้นเป็นความจริง ดังนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงว่าคำให้การชั้นสอบสวนที่ว่าเห็นนั้นเป็นความเท็จ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จ โดยนำความที่รู้ว่าเป็นความเท็จไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวน ว่าเห็นนายลีกับพวกปล้นทรัพย์นางมี
จำเลยให้การว่า ได้แจ้งความว่า ไม่เห็นพนักงานสอบสวนจดคำให้การเอาเองว่า เห็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า จำเลยมาให้การชั้นศาลในคดีนายลีกับพวกเป็นจำเลยเรื่องปล้นว่า ความจริงจำเลยไม่ได้เห็น และให้การเมื่อเป็นจำเลยในคดีนี้ ก็ยังว่าความจริงจำเลยได้ให้การชั้นสอบสวนว่ามิได้เห็นนายลีกับพวกปล้นทรัพย์ ไม่ได้เถียงว่าคำให้การชั้นสอบสวนที่ว่าเห็นนั้นเป็นความจริง จึงฟังได้ว่า ความจริงจำเลยไม่ได้เห็นนายลีกับพวกปล้นทรัพย์ ฉะนั้นคำให้การของจำเลยชั้นสอบสวนที่ว่าเห็น จึงเป็นความเท็จอยู่ในตัว และศาลฎีกาฟังว่า จำเลยได้ให้การไว้ชั้นสอบสวนว่าได้เห็น จำเลยจึงมีความผิดฐานแจ้งความเท็จพิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น