คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636-640/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์
จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเรื่องชำระค่าเช่า
จำเลยนำค่าเช่าไปชำระให้โจทก์ โจทก์ไม่ยอมรับค่าเช่าจากจำเลยเองดังนี้ เท่ากับจำเลยยอมรับว่าได้ค้างค่าเช่าโจทก์อยู่จริง จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบให้สมข้อต่อสู้ เมื่อจำเลยไม่สืบพยานจำเลยก็ต้องแพ้คดี

ย่อยาว

คดี 5 สำนวนนี้โจทก์ฟ้องใจความอย่างเดียวกันว่า ขอให้จำเลยแต่ละสำนวนออกจากห้องเช่าของโจทก์และเรียกค่าเช่าที่ค้างโดยอ้างว่าจำเลยแต่ละสำนวนผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2499 ตลอดมา โจทก์ทวงถามจำเลยเพิกเฉยเสีย โจทก์บอกเลิกสัญญาให้จำเลยแต่ละสำนวนออกจากห้องเช่า

จำเลยแต่ละสำนวนต่อสู้อย่างเดียวกันว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญาเรื่องชำระค่าเช่า โจทก์ไม่ยอมรับค่าเช่าจากจำเลย จำเลยได้รับความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ

ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณา คู่ความแถลงว่าห้องพิพาทอยู่ในเขตเทศบาลเมืองบ้านโป่งและไม่ติดใจสืบพยาน

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยทุกสำนวน แต่คำขอเรียกค่าเช่าให้ยกเสีย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้ง 5 สำนวนฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยนำค่าเช่าไปชำระให้โจทก์แล้วแต่โจทก์ไม่ยอมรับดังนี้ เท่ากับจำเลยยอมรับว่าได้ค้างค่าเช่าโจทก์อยู่จริง จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบให้สมข้อต่อสู้ เมื่อจำเลยไม่สืบพยาน ก็ไม่มีทางชนะคดีโจทก์ได้

พิพากษายืน

Share