แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ค่าพาหนะที่โจทก์ต้องเสียไปในการว่าจ้างรถแท๊กซี่ไปจัดการฌาปนกิจศพผู้ตายเป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าปลงศพ และค่าขาดผลประโยชน์ที่ผู้ตายเคยส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์ก็คือค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายไป โจทก์ในฐานะมารดาของผู้ตายมีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์สำนวนแรกเป็นมารดาของนายเปี๊ยกหรือชัยโยหรือสมศักดิ์ นาวีเสถียร จำเลยที่ 2 เป็นนิติบุคคลและเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 โดยประมาทชนรถยนต์โดยสารซึ่งนายเปี๊ยกหรือชัยโยหรือสมศักดิ์ นาวีเสถียรกับโจทก์สำนวนหลังโดยสารมาเป็นเหตุให้นายเปี๊ยกถึงแก่ความตายและโจทก์สำนวนหลังบาดเจ็บสาหัส โจทก์สำนวนแรกขอเรียกค่าสินไหมทดแทนคือค่าฌาปนกิจศพ 3,700 บาท ค่ารถแท๊กซี่ไปดูศพ 750 บาท ค่าหีบศพ 700 บาทค่าขาดผลประโยชน์ที่บุตรส่งเสียเลี้ยงดู 25,000 บาท โจทก์สำนวนหลังขอเรียกค่าสินไหมทดแทนคือค่ารถแท๊กซี่ 1,400 บาท ค่ารักษาพยาบาล 12,000บาท ค่าขาดรายได้ 4,800 บาท ค่าต้องพิการ 25,000 บาท ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่า โจทก์ทั้งสองสำนวนไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 มิได้ขับรถโดยประมาท ค่าเสียหายโจทก์สำนวนแรก ค่าฌาปนกิจศพไม่ควรเกิน 882 บาท 50 สตางค์ ค่าหีบศพไม่ถึง 700 บาท ค่าเหมารถแท๊กซี่ไม่เกิน 200 บาท ค่าขาดผลประโยชน์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง ส่วนโจทก์สำนวนหลังค่าพาหนะไม่เกิน 200 บาท ค่ารักษาพยาบาลไม่ถึง 12,000 บาท ค่าพิการไม่ควรเกิน 2,000 บาท
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ทั้งสองสำนวนมีอำนาจฟ้อง เหตุรถชนกันเกิดจากความประมาทของจำเลยที่ 1 พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์สำนวนแรกเป็นเงิน 29,950 บาท และโจทก์สำนวนหลังเป็นเงิน 40,300 บาท
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะค่าเสียหายของโจทก์สำนวนหลังว่าค่าจ้างเหมารถแท็กซี่ 900 บาทโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง คงให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์สำนวนหลังเป็นเงิน39,400 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ทั้งสองสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์สำนวนแรกไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าพาหนะกับค่าขาดผลประโยชน์นั้น ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าค่าพาหนะที่โจทก์ต้องเสียไปในการว่าจ้างเหมารถแท็กซี่ไปจัดการฌาปนกิจศพผู้ตายเป็นค่าใช้จ่ายอันจำเป็นอย่างอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าปลงศพ และค่าขาดผลประโยชน์ที่ผู้ตายเคยส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์ ก็คือค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายไป ค่าสินไหมทดแทนทั้งสองดังกล่าวโจทก์ในฐานะมารดาของผู้ตายมีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน โจทก์ทั้งสองสำนวนไม่แก้ฎีกา จึงไม่กำหนดค่าทนายความให้