คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2886-2888/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คชำระหนี้ที่บริษัทโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ในเขตท้องที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินที่จังหวัดอุบลราชธานี โจทก์ร่วมมีสิทธิร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามได้เพราะเป็นความผิดต่อเนื่องกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา19 ต่อมาจำเลยถูกจับในเขตท้องที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามย่อมมีอำนาจสอบสวนจำเลยเพราะได้มีการร้องทุกข์ไว้ก่อนแล้ว

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 จำคุกคดีละ 7 เดือน คดีที่ 3 จำคุก 9 เดือน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด นานาอีเล็คโทรนิคส์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี จำเลยออกเช็คตามฟ้องทั้ง 3 ฉบับ สองฉบับแรกสั่งจ่ายในนามห้างหุ้นส่วนจำกัด นานาอีเล็กโทรนิคส์ ฉบับหลังในนามจำเลยเพื่อชำระหนี้ค่าซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ที่ซื้อไปจากบริษัทโจทก์ร่วม ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์ร่วมมอบอำนาจให้นายธีระศักดิ์ หวังวรวงศ์ ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้ที่หน้าสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม จึงได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีทั้งสามสำนวนนี้

ที่จำเลยฎีกาว่า การสอบสวนของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามไม่ชอบ ถือว่าไม่มีการสอบสวน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น ได้ความว่าจำเลยออกเช็คชำระหนี้ที่บริษัทโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ในเขตท้องที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม แม้ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาอุบลราชธานี ปฏิเสธการจ่ายเงินที่จังหวัดอุบลราชธานี ผู้แทนของโจทก์ร่วมมีสิทธิร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เพราะเป็นความผิดต่อเนื่องกัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 19 ต่อมาจำเลยถูกจับในเขตท้องที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามย่อมมีอำนาจสอบสวนจำเลยเพราะได้มีการร้องทุกข์ไว้ก่อนแล้ว หาจำต้องจับกุมตัวก่อนแล้วจึงทำการสอบสวนในภายหลังดังที่จำเลยฎีกาไม่”

พิพากษายืน

Share