แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
มารดาเจ้ามรดกกับภริยาเจ้ามรดกต่างเป็นทายาทโดยธรรมเจ้ามรดกไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ มารดาเคยจะขอหญิงอื่นให้เป็นภริยาเจ้ามรดก ภริยาเคยกล่าวหาว่าบิดาเจ้ามรดกยักยอกทรัพย์มรดกจะให้ฝ่ายใดเป็นผู้จัดการมรดกแต่ฝ่ายเดียวอาจเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่งจึงให้ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องซึ่งเป็นมารดาเจ้ามรดกเป็นผู้จัดการมรดกศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ตั้งภริยาเจ้ามรดกเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้ร้องเป็นมารดานายพินิจ ละออสุวรรณ ซึ่งเป็นสามีของผู้คัดค้าน นายพินิจ ละออสุวรรณถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2521 ที่บ้านผู้ร้อง ผู้ตายมีทรัพย์สินหลายอย่างโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างไปขอรับมรดกทรัพย์บางอย่างของผู้ตายต่อเจ้าหน้าที่แต่ขัดข้องต้องให้ศาลมีคำสั่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกก่อน ผู้ร้องและผู้คัดค้านมิได้เป็นบุคคลที่ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718
ปัญหาว่า ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านสมควรเป็นผู้จัดการมรดก” ฯลฯ
“ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็น่วา ผู้ร้องเป็นมารดานายพินิจ ละออสุวรรณซึ่งเป็นสามีผู้คัดค้าน ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างเป็นทายาทโดยธรรมที่มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์มรดกของนายพินิจ ละออสุวรรณ ผู้ตายเมื่อปรากฏว่านายพินิจ ละออสุวรรณ เคยขอหย่ากับผู้คัดค้าน ผู้ร้องสู่ขอหญิงอื่นให้เป็นภรรยานายพินิจ ละออสุวรรณ ผู้คัดค้านเคยกล่าวหาบิดานายพินิจ ละออสุวรรณ ว่ายักยอกทรัพย์มรดกนายพินิจ ละออสุวรรณ การที่จะให้ฝ่ายใดเป็นผู้จัดการมรดกแต่ฝ่ายเดียวอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่งได้ สมควรให้ผู้ร้องและผู้คัดค้านร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดก ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกและยกคำร้องของผู้ร้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่าให้นางศรี ละออสุวรรณ เป็นผู้จัดการมรดกของนายพินิจ ละออสุวรรณ ผู้ตาย ร่วมกับนางเหม ละออสุวรรณ โดยให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ”