แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินโบนัสไม่มีกฎหมายบังคับว่านายจ้างต้องจ่ายเสมอไป หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจ่ายเงินโบนัสหรือสิทธิที่ลูกจ้างจะได้รับเงินโบนัส จึงต้องเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างนั้น จำเลยมีประกาศ เรื่อง เงินโบนัสประจำปี 2557 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินโบนัสว่า “1.2 กำหนดเวลาการจ่ายเงินโบนัสประจำปี 2557 ในวันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558…” และ “1.4 พนักงานจะต้องมีสถานภาพจนถึงวันที่จ่ายโบนัสประจำปี” โจทก์รับทราบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังกล่าวตลอดมา การที่จำเลยกำหนดให้มีการจ่ายเงินโบนัสแก่ลูกจ้างก็เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ลูกจ้าง ตอบแทนการทำงานที่ผ่านมา และจูงใจให้ลูกจ้างทำงานให้จำเลยต่อไป หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินโบนัสประจำปี 2557 จึงเป็นไปตามหลักการบริหารองค์กรโดยทั่วไป ไม่เป็นการเอาเปรียบหรือเลือกปฏิบัติต่อโจทก์ ทั้งมีข้อกำหนดถึงคุณสมบัติของลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับเงินโบนัสไว้ชัดแจ้งแล้ว จึงใช้บังคับได้และผูกพันโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินโบนัสหรือเงินเพิ่มพิเศษประจำปี 2557 เป็นเงิน 187,132 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2527 และครบเกษียณอายุงานในวันที่ 31 มกราคม 2558 โดยได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 46,009 บาท แล้ววินิจฉัยว่า โจทก์เป็นผู้มีคุณสมบัติไม่ครบหลักเกณฑ์ที่จะมีสิทธิได้รับเงินโบนัสตามประกาศของจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายเงินโบนัสให้โจทก์
คดีมีปัญหาตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า หลักเกณฑ์การรับเงินโบนัสเป็นธรรมหรือไม่ โดยโจทก์อุทธรณ์ว่าการที่โจทก์พ้นสภาพจากการเป็นลูกจ้าง มิได้มาจากเจตนาของโจทก์ที่ต้องการพ้นสภาพการเป็นลูกจ้างจำเลย แต่เป็นเพราะจำเลยเป็นผู้กำหนดขึ้นมาทำให้โจทก์ไม่ได้รับเงินโบนัส และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเคลือบคลุมไม่ชัดเจน เรื่องการพ้นสภาพการเป็นลูกจ้างว่าจะพ้นสภาพลักษณะใด ลาออกหรือเพราะถูกบังคับให้ออก อีกทั้งหลักเกณฑ์การจ่ายเงินโบนัสข้อ 1.2 ขัดกับข้อ 1.3 ทำให้โจทก์ไม่ได้รับความเป็นธรรม โจทก์ทำงานให้จำเลยครบ 1 ปี ตามข้อ 1.2 (ที่ถูก 1.3) แต่ต้องถูกกำจัดสิทธิตามข้อ 1.3 (ที่ถูก 1.2) เห็นว่า เงินโบนัสไม่มีกฎหมายบังคับว่านายจ้างต้องจ่ายเสมอไป หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจ่ายเงินโบนัสหรือสิทธิที่ลูกจ้างจะได้รับเงินโบนัส จึงต้องเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างนั้น เมื่อได้ความว่าจำเลยมีประกาศ เรื่อง เงินโบนัสประจำปี 2557 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินโบนัสว่า “1.2 กำหนดเวลาการจ่ายเงินโบนัสประจำปี 2557 ในวันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558…” และ “1.4 พนักงานจะต้องมีสถานภาพจนถึงวันที่จ่ายโบนัสประจำปี” โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังกล่าวอ้างอิงมาจากประกาศเดิมปี 2556 ของจำเลย ซึ่งโจทก์เองก็รับทราบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังกล่าวตลอดมา การที่จำเลยกำหนดให้มีการจ่ายเงินโบนัสแก่ลูกจ้างก็เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ลูกจ้าง ตอบแทนการทำงานที่ผ่านมา และจูงใจให้ลูกจ้างทำงานให้จำเลยต่อไป หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินโบนัสประจำปี 2557 ของจำเลยจึงเป็นไปตามหลักการบริหารองค์กรโดยทั่วไป ไม่เป็นการเอาเปรียบหรือเลือกปฏิบัติต่อโจทก์ ทั้งมีข้อกำหนดถึงคุณสมบัติของลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับเงินโบนัสไว้ชัดแจ้งแล้ว จึงใช้บังคับได้และผูกพันโจทก์ ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าหลักเกณฑ์การจ่ายเงินโบนัสเป็นธรรม จึงชอบแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน