คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6426/2560

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยนำเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ติดตัวไปที่บ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านที่ ณ. พักอาศัยอยู่ พบ ณ. กับ น. และพวกรวมประมาณ 5 ถึง 6 คน ซึ่งไม่ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับจำเลยอย่างไร และทั้งหมดนั่งล้อมวงอยู่ด้วยกันบริเวณด้านหลังของบ้านที่เกิดเหตุ โดยจำเลยนำเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครอง 2 เม็ด ออกมาวางตรงกลางเพื่อจำเลยและทุกคนได้เสพ ถือเป็นการกระทำอันเป็นการแพร่กระจายยาเสพติดให้โทษไปสู่บุคคลอื่น เข้าลักษณะแจกจ่าย ซึ่งอยู่ในความหมายของการจำหน่ายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 แล้ว การที่ น. หยิบเอาเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ดไว้ แม้ น. และบุคคลอื่นเหล่านั้นจะยังไม่ทันได้เสพก็ตาม การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด โดยไม่ได้รับอนุญาต
การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ย่อมเป็นความผิดสำเร็จแล้วกระทงหนึ่ง และเมื่อจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด แม้เมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด จะเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ซึ่งต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยทุกกรรมตาม ป.อ. มาตรา 91

(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2560)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 91 และริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง จำคุก 5 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 67 จำคุก 2 ปี และปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับ 26,666.66 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้ง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี นับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ตามวันเวลาและเงื่อนไขที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรกำหนด กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควรมีกำหนด 20 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า ตามวัน เวลา และสถานที่เกิดเหตุ จำเลยและเด็กหญิงนาริน กับพวก รวมประมาณ 5 ถึง 6 คน นั่งล้อมวงกันในห้องที่เกิดเหตุ โดยจำเลยมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด น้ำหนักรวม 1.108 กรัม ไว้ในครอบครอง และจำเลยได้นำเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองออกมาวางกลางวงเพื่อจำเลยและพวกจะได้ร่วมกันเสพเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ดดังกล่าว แต่เนื่องจากมีเจ้าพนักงานตำรวจเข้ามาแสดงตัวเพื่อจับกุม จำเลยและพวกจึงพากันวิ่งหลบหนี เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยพร้อมเมทแอมเฟตามีน 10 เม็ด กับเงินสด 1,400 บาท และจับเด็กหญิงนารินได้พร้อมกับเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด ที่เด็กหญิงนารินหยิบเอาไว้ก่อนวิ่งหลบหนี
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อแรกว่า จำเลยมีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่า ขณะเกิดเหตุ จำเลยอายุ 23 ปี มีสามีแล้ว มีบุตร 1 คน จำเลยมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง และจำเลยต้องทราบอยู่แล้วว่าเมทแอมเฟตามีนเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง ผู้ใดมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเป็นความผิดตามกฎหมาย เจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจจับกุมตัวไปดำเนินคดีได้ การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ไว้ในครอบครอง หากจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะจำหน่าย หรือแจกจ่ายไปให้แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด จำเลยก็ไม่สมควรนำเมทแอมเฟตามีนทั้ง 12 เม็ด ติดตัวไปตามสถานที่ต่างๆ ที่ไม่ใช่บ้านอันเป็นเคหสถานของตนเอง เพราะเสี่ยงต่อการถูกตรวจค้นและถูกจับกุม การที่จำเลยนำเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด พกติดตัวไปที่บ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านที่นายณัฐพงษ์ พักอาศัยอยู่ ไปพบกับนายณัฐพงษ์ เด็กหญิงนาริน และพวกรวมประมาณ 5 ถึง 6 คน ซึ่งไม่ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับจำเลยอย่างไร และทั้งหมดนั่งล้อมวงอยู่ด้วยกันบริเวณด้านหลังของบ้านที่เกิดเหตุ โดยจำเลยนำเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครอง 2 เม็ด ออกมาวางตรงกลางเพื่อจำเลยและทุกคนได้เสพ ซึ่งถือเป็นการกระทำอันเป็นการแพร่กระจายยาเสพติดให้โทษไปสู่บุคคลอื่น เข้าลักษณะแจกจ่าย ซึ่งอยู่ในความหมายของการจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 แล้ว การที่เด็กหญิงนารินหยิบเอาเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ดดังกล่าวไว้ แม้เด็กหญิงนารินและบุคคลอื่นเหล่านั้นจะยังไม่ทันได้เสพก็ตาม การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด โดยไม่ได้รับอนุญาต ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อต่อไปว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ซึ่งต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยทุกกรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 หรือไม่ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ย่อมเป็นความผิดสำเร็จแล้วกระทงหนึ่ง และเมื่อจำเลยได้จำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด แม้เมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด จะเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีน 12 เม็ด ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดอีกกระทงหนึ่ง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ซึ่งต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยทุกกรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้นเช่นกัน
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 4 ปี และปรับ 80,000 บาท ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 4 ปี และปรับ 80,000 บาท คำให้การชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 2 ปี 8 เดือน และปรับ 53,333.33 บาท ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 2 ปี 8 เดือน และปรับ 53,333.33 บาท รวมจำคุก 4 ปี 16 เดือน และปรับ 106,666.66 บาท พิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แห่งคดี ปริมาณเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย เป็นจำนวนเล็กน้อย ประกอบกับจำเลยเป็นหญิงซึ่งพ้นจากวัยรุ่นไม่นาน มีบุตรที่ต้องเลี้ยงดู และไม่ปรากฏว่าเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ทั้งยังต้องขังในคดีนี้มานานเกือบ 2 ปีแล้ว จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีสักครั้ง โดยให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี นับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติปีละครั้ง เพื่อให้พนักงานคุมประพฤติให้คำแนะนำหรือช่วยเหลือในการไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษอีก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (ที่แก้ไขใหม่) หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 (ที่แก้ไขใหม่) ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง

Share