คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 บัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกา เว้นแต่ (1) การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดนั้นจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน (2) คำสั่งหรือคำพิพากษานั้นฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน (3) คำสั่งหรือคำพิพากษานั้นไม่ตรงกับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ (4) ผู้พิพากษาหรือตุลาการซึ่งพิจารณาคดีนั้นได้ทำความเห็นแย้งไว้ในคำพิพากษา หรือ (5) เป็นคำสั่งเกี่ยวด้วยการใช้วิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่พิพาทตามมาตรา 16 เมื่ออุทธรณ์ของผู้ร้องเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นในปัญหาเพียงข้อเดียวว่า ศาลชั้นต้นตีความความรับผิดของผู้รับประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ในกรณีผู้รับประกันภัยรับประกันจากผู้เอาประกันตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ไม่ถูกต้อง ซึ่งศาลชั้นต้นได้ยกคำร้องของผู้ร้องโดยให้เหตุผลในคำวินิจฉัยว่า การที่อนุญาโตตุลาการให้ผู้ร้องรับผิดจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนนอกเหนือจากค่าเสียหายเบื้องต้นนั้น ก็เป็นการจ่ายไปตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ เรื่องหลักเกณฑ์วิธีการจ่ายและระยะเวลาการจ่ายค่าสินไหมทดแทนนอกเหนือจากค่าเสียหายเบื้องต้น ซึ่งประกาศดังกล่าวออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 14 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 อันเป็นการวินิจฉัยไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ดังนี้ คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาตโตตุลาการจึงชอบแล้ว กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมายทั้งห้าวงเล็บดังกล่าวข้างต้นที่จะอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ
ผู้คัดค้าน (ผู้เสนอข้อพิพาท) ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลแขวงปทุมวันมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีการอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกานั้น พระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 บัญญัติห้ามมิให้อุทธรณ์ เว้นแต่ (1) การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดนั้นจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน (2) คำสั่งหรือคำพิพากษานั้นฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน (3) คำสั่งหรือคำพิพากษานั้นไม่ตรงกับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ (4) ผู้พิพากษาหรือตุลาการซึ่งพิจารณาคดีนั้นได้ทำความเห็นแย้งไว้ในคำพิพากษา หรือ (5) เป็นคำสั่งเกี่ยวด้วยการใช้วิธีการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่พิพาทตามมาตรา 16 แต่เมื่อพิจารณาอุทธรณ์ของผู้ร้องแล้ว ปรากฏว่าผู้ร้องคงอุทธรณ์โต้แย้งคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นในปัญหาเพียงข้อเดียวว่า ศาลชั้นต้นตีความความรับผิดของผู้รับประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ในกรณีผู้รับประกันภัยรับประกันจากผู้เอาประกันตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ไม่ถูกต้อง กล่าวคือ ในกรณีนี้เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้นผู้รับประกันภัยมีความรับผิดเบื้องต้นตามกฎหมายไม่เกิน 15,000 บาท เท่านั้น การที่ผู้รับประกันภัยจ่ายค่าเสียหายส่วนที่เกิน 15,000 บาท จึงเป็นการจ่ายเกินความรับผิดตามอำเภอใจ ไม่มีกฎหมายรองรับ จึงรับช่วงสิทธิไล่เบี้ยผู้ร้องไม่ได้ การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการชอบแล้ว และยกคำร้องของผู้ร้องย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้องของผู้ร้องโดยให้เหตุผลว่า การที่อนุญาโตตุลาการให้ผู้ร้องรับผิดจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนนอกเหนือจากค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นการจ่ายไปตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ เรื่องหลักเกณฑ์วิธีการจ่ายและระยะเวลาการจ่ายค่าสินไหมทดแทนนอกเหนือจากค่าเสียหายเบื้องต้น ซึ่งประกาศดังกล่าวออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 14 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 อันเป็นการวินิจฉัยไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด มิใช่เป็นการให้ผู้ร้องต้องรับผิดตามอำเภอใจ โดยไม่มีกฎหมายรองรับดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลการจึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของผู้ร้องจึงไม่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมายทั้งห้าวงเล็บดังกล่าวข้างต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของผู้ร้อง คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดให้แก่ผู้ร้อง ค่าทนายความชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share