แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าจ้างตามสัญญาจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ ออกแบบและปรับปรุงพื้นที่บริการลูกค้า ภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ จึงต้องพิจารณาว่า สัญญาพิพาทดังกล่าวเป็นสัญญาทางแพ่งหรือสัญญาทางปกครอง เห็นว่า คดีนี้จำเลยเป็นบริษัทมหาชน จำกัด แปรรูปและรับโอนกิจการมาจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย ตามพ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๔๒ จึงเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการโทรคมนาคม และให้บริการด้านโทรคมนาคม เมื่อคดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินในส่วนงานออกแบบผลิตและติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ของโจทก์ อันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงานแบบเบ็ดเสร็จออกแบบและปรับปรุงพื้นที่บริการลูกค้าภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงอาคารสำนักงานของจำเลย และเป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อให้บริการประชาชน ก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่ที่สืบเนื่องจากการจัดให้มีเครื่องมือที่สำคัญและจำเป็นต่อการประกอบกิจการโทรคมนาคม และให้บริการด้านโทรคมนาคม เป็นการจัดทำบริการสาธารณะของจำเลย อันเป็นสัญญาทางปกครองตามมาตรา ๓ แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน
ย่อยาว
(สำเนา)
คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
ที่ ๖๖/๒๕๕๗
วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๗
เรื่อง เขตอำนาจศาลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔)
ศาลจังหวัดเชียงใหม่
ระหว่าง
ศาลปกครองเชียงใหม่
การส่งเรื่องต่อคณะกรรมการ
ศาลจังหวัดเชียงใหม่โดยสำนักงานศาลยุติธรรมส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลวินิจฉัยชี้ขาดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง (๓) ซึ่งเป็นกรณีคู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลที่รับฟ้องคดี และศาลที่ส่งความเห็นและศาลที่รับความเห็นมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องเขตอำนาจศาลในคดีนั้น
ข้อเท็จจริงในคดี
เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๔ บริษัทลีเนียร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด โจทก์ ยื่นฟ้องบริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จำเลย ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ เป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.๑/๒๕๕๔ หมายเลขแดงที่ ผบ.๑๓๑๐/๒๕๕๔ ความว่า จำเลยได้ทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ให้ทำงานจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ ออกแบบและปรับปรุงพื้นที่บริการลูกค้า ภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ ในราคาจ้างเหมารวมอุปกรณ์ ๒,๗๐๐,๐๐๐ บาท ระหว่างดำเนินการ จำเลยแก้ไขแบบแปลนสัญญาจ้าง และให้ออกแบบ ผลิต และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ภายนอกตัวอาคาร ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในสัญญา ตกลงชำระค่าจ้างเมื่อทำงานเสร็จและส่งมอบงาน โจทก์ทำงานส่วนเพิ่มเสร็จ จำเลยชำระเงินเฉพาะงานสัญญาจ้างเท่านั้น ไม่ชำระส่วนงานเพิ่มเติม ๓๗๙,๕๐๐ บาท โจทก์ติดตามทวงถามแต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าจ้างพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า งานออกแบบ ผลิต และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ของโจทก์ เป็นไปตามเงื่อนไขเฉพาะการจ้างประกอบประกาศสอบราคาจ้างเหมาตกแต่งภายในอาคารสำนักงานจำเลย มิใช่งานจ้างเพิ่มเติมนอกเหนือสัญญาจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ จำเลยไม่ต้องรับผิดชำระเงินให้แก่โจทก์
จำเลยยื่นคำร้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลว่า คดีนี้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้แม้จำเลยเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่การออกแบบ ผลิต และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่นอกตัวอาคารสำนักงานของจำเลย มีสาระสำคัญเพื่อประชาสัมพันธ์องค์กรของจำเลยและการให้บริการเพื่อให้ประชาชนทั่วไปมาใช้บริการของจำเลยอันเป็นการกระทำเพื่อแสวงหารายได้ และผลตอบแทนในเชิงพาณิชย์เช่นเดียวกับผู้ประกอบกิจการธุรกิจทั่วไป และในส่วนของสัญญาออกแบบและปรับปรุงตกแต่งพื้นที่บริการลูกค้าภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้าของจำเลยระหว่างจำเลยกับโจทก์ ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงสถานที่ให้เกิดความสวยงามและให้ความสะดวกแก่ผู้เข้าไปใช้บริการในบริเวณอาคารสำนักงานบริการลูกค้าของจำเลย ซึ่งเป็นการดำเนินการในเชิงธุรกิจต่อเนื่องจากการให้บริการทางสาธารณะในลักษณะเช่นเดียวกับเอกชนผู้ประกอบกิจการธุรกิจทั่วไป กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่าการปรับปรุงตกแต่งในส่วนพื้นที่ให้บริการลูกค้าเป็นองค์ประกอบและเครื่องมือสำคัญในการดำเนินการบริการสาธารณะ เพื่อมุ่งให้การบริการสาธารณะของจำเลยบรรลุผลได้โดยตรง นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และจำเลยในกรณีนี้ จึงเป็นการดำเนินกิจการในการทำธุรกรรมทางแพ่งทั่วไป และมีลักษณะมุ่งผูกพันตนด้วยใจสมัครบนพื้นฐานแห่งความเสมอภาค มิใช่กิจการที่ใช้อำนาจทางปกครองหรือดำเนินกิจการทางปกครองโดยตรง ที่ต้องอาศัยอำนาจตามกฎหมายหรืออำนาจในการจัดทำบริการสาธารณะที่จำเลยมีอำนาจเหนือปัจเจกบุคคล และไม่มีลักษณะเป็นสัญญาสัมปทาน สัญญาที่ให้จัดทำบริการสาธารณะ หรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ที่จะถือว่าเป็นสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ อันจะอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางแพ่ง อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ศาลปกครองเชียงใหม่พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์และจำเลยทำสัญญาจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ ออกแบบ ปรับปรุงพื้นที่ พร้อมติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ ทั้งในส่วนพื้นที่บริการลูกค้าและพื้นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยในส่วนงานจ้างออกแบบ ผลิต และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ภายนอกตัวอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ ที่พิพาทกันในคดีนี้เป็นงานที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขเฉพาะการจ้างตามประกาศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ดังนั้น สัญญาจ้างงานเหมาแบบเบ็ดเสร็จ ออกแบบและปรับปรุงพื้นที่บริการลูกค้าภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ ระหว่างโจทก์และจำเลย จึงเป็นสัญญาที่คู่สัญญาอย่างน้อยฝ่ายหนึ่ง ซึ่งได้แก่จำเลยเป็นหน่วยงานทางปกครอง และมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงอาคารสำนักงานของจำเลยสำหรับเป็นสถานที่ติดต่อให้บริการด้านโทรคมนาคมแก่ประชาชนและเป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อให้บริการประชาชนที่มาใช้บริการที่อาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ ซึ่งมีลักษณะเป็นสัญญาที่จัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคอันเป็นเครื่องมือสำคัญที่จำเลยใช้ในการดำเนินกิจการทางปกครองหรือจัดทำบริการสาธารณะด้านโทรคมนาคมตามอำนาจหน้าที่ของจำเลย สัญญาจ้างงานเหมาแบบเบ็ดเสร็จ ออกแบบและปรับปรุงพื้นที่บริการลูกค้าภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ จึงเป็นสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ เมื่อคดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินในส่วนงานออกแบบผลิตและติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ภายนอกตัวอาคาร อันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงานแบบเบ็ดเสร็จออกแบบและปรับปรุงพื้นที่บริการลูกค้าภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ ที่มิอาจแยกออกจากสัญญาดังกล่าวได้ข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็นข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามสัญญาจ้างงานเหมาแบบเบ็ดเสร็จ ออกแบบและปรับปรุงพื้นที่บริการลูกค้าภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ คดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน
คำวินิจฉัย
ปัญหาที่ต้องพิจารณา คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง
คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าจ้างตามสัญญา กรณีจำเลยทำสัญญาจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ ออกแบบและปรับปรุงพื้นที่บริการลูกค้า ภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ กับโจทก์ ต่อมาจำเลยแก้ไขแบบแปลนสัญญาจ้าง และให้ออกแบบ ผลิต และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ภายนอกตัวอาคาร ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในสัญญา โจทก์ทำงานส่วนเพิ่มเสร็จ แต่จำเลยไม่ชำระค่าจ้าง ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าจ้างพร้อมดอกเบี้ย ส่วนจำเลยให้การว่า งานออกแบบ ผลิต และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ของโจทก์ เป็นไปตามเงื่อนไขเฉพาะการจ้างประกอบประกาศสอบราคาจ้างเหมาตกแต่งภายในอาคารสำนักงานจำเลย มิใช่งานจ้างเพิ่มเติมนอกเหนือสัญญาจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ จำเลยไม่ต้องรับผิดชำระเงินให้แก่โจทก์ จึงต้องพิจารณาว่า สัญญาพิพาทดังกล่าวเป็นสัญญาทางแพ่งหรือสัญญาทางปกครอง เห็นว่า พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) บัญญัติให้ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง และมาตรา ๓ บัญญัติให้สัญญาทางปกครองหมายความรวมถึง สัญญาที่คู่สัญญาอย่างน้อยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเป็นบุคคลซึ่งกระทำการแทนรัฐ และมีลักษณะเป็นสัญญาสัมปทาน สัญญาที่ให้จัดทำบริการสาธารณะ หรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ คดีนี้จำเลยเป็นบริษัทมหาชน จำกัด แปรรูปและรับโอนกิจการมาจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๔๒ จึงเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการโทรคมนาคม และให้บริการด้านโทรคมนาคมทุกลักษณะ เมื่อคดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินในส่วนงานออกแบบผลิตและติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ของโจทก์ อันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงานแบบเบ็ดเสร็จออกแบบและปรับปรุงพื้นที่บริการลูกค้าภายในอาคารสำนักงานบริการลูกค้า กสท เชียงใหม่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงอาคารสำนักงานของจำเลยสำหรับเป็นสถานที่ติดต่อให้บริการด้านโทรคมนาคมแก่ประชาชน และเป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อให้บริการประชาชน ก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่ที่สืบเนื่องจากการจัดให้มีเครื่องมือที่สำคัญและจำเป็นต่อการประกอบกิจการโทรคมนาคม และให้บริการด้านโทรคมนาคม อันเป็นการจัดทำบริการสาธารณะของจำเลย สัญญาพิพาทจึงเป็นสัญญาทางปกครองตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน
จึงวินิจฉัยชี้ขาดว่า คดีระหว่างบริษัทลีเนียร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด โจทก์ บริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จำเลย อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
(ลงชื่อ) ดิเรก อิงคนินันท์ (ลงชื่อ) สุวัฒน์ วรรธนะหทัย
(นายดิเรก อิงคนินันท์) (นายสุวัฒน์ วรรธนะหทัย)
ประธานศาลฎีกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม
(ลงชื่อ) หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล (ลงชื่อ) จรัญ หัตถกรรม
(นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล) (นายจรัญ หัตถกรรม)
ประธานศาลปกครองสูงสุด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครอง
(ลงชื่อ) พลเรือโท กฤษฎา เจริญพานิช (ลงชื่อ) พลตรี พัฒนพงษ์ เกิดอุดม
(กฤษฎา เจริญพานิช) (พัฒนพงษ์ เกิดอุดม)
หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลทหาร
(ลงชื่อ) จิระ บุญพจนสุนทร
(นายจิระ บุญพจนสุนทร)
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ