แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
คดีที่โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ซึ่งเป็นเอกชน และนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดนนทบุรี จำเลยที่ ๔ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ อ้างว่าได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ร่วมกันปลอมลายมือชื่อโจทก์ในคำขอและเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งเป็นความเท็จ แล้วนำเอกสารปลอมดังกล่าวยื่นต่อจำเลยที่ ๔ และจำเลยที่ ๔ รับจดทะเบียนให้ โดยโจทก์ไม่ได้รู้เห็นกับการจดทะเบียนดังกล่าว จึงขอให้จำเลยที่ ๔ เพิกถอนการจดทะเบียน แต่จำเลยที่ ๔ ไม่ดำเนินการ ขอให้พิพากษาหรือมีคำสั่งว่าคำขอและเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ให้การจดทะเบียนเป็นโมฆะหรือเพิกถอนการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวหรือเพิกถอนชื่อโจทก์จากการเป็นหุ้นส่วน กับให้เพิกถอนนิติกรรมทั้งหมดที่กระทำขึ้น เห็นว่า ประเด็นข้อพิพาทในคดีนี้เป็นกรณีที่ต้องพิสูจน์การกระทำของจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ว่า ได้ร่วมกันปลอมลายมือชื่อโจทก์ตามที่โจทก์กล่าวอ้างหรือไม่ อันเป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชนและเป็นเรื่องที่โจทก์ถือเอาเป็นข้อโต้แย้งสิทธิในคดี ส่วนคดีระหว่างโจทก์และจำเลยที่ ๔ ที่โจทก์กล่าวอ้างว่าไม่ยอมเพิกถอนการจดทะเบียนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวเป็นกรณีที่สืบเนื่องมาจากคดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ซึ่งเป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชนด้วยกันเองเกี่ยวกับการปลอมลายมือชื่อโจทก์ในเอกสารดังกล่าวข้างต้น คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ย่อยาว
(สำเนา)
คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
ที่ ๑๑๕/๒๕๕๖
วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
เรื่อง เขตอำนาจศาลเกี่ยวกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑)
ศาลจังหวัดนนทบุรี
ระหว่าง
ศาลปกครองกลาง
การยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ
ศาลจังหวัดนนทบุรีโดยสำนักงานศาลยุติธรรมส่งเรื่องให้คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง (๓) ซึ่งเป็นกรณีคู่ความฝ่ายที่ถูกฟ้องคดีโต้แย้งอำนาจศาลที่รับฟ้องคดี และศาลที่ส่งความเห็นและศาลที่รับความเห็นมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องอำนาจศาลในคดีนั้น
ข้อเท็จจริงในคดี
เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔ นางสาวสุดารัตน์ ศรีศิริ โจทก์ ยื่นฟ้อง นายอรุณ รัตนเรือง ที่ ๑ นางจิตตินันท์ แกล้วกสิกิจ ที่ ๒ นายฑีฆายุบุตร คุปอริยสิทธิ์ ที่ ๓ นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดนนทบุรี ที่ ๔ จำเลย ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ. ๑๔๖๔/๒๕๕๔ หมายเลขแดงที่ พ. ๑๘๗/๒๕๕๕ ความว่า เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๒ จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ร่วมกันปลอมแปลงลายมือชื่อโจทก์ในคำขอและเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด แฟมมิลี่ แอนด์ แฮปปี้ แคร์ เซอร์วิส โดยมีข้อความระบุให้โจทก์เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและเป็นผู้ขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวซึ่งเป็นความเท็จ และจำเลยที่ ๑ ยังลงลายมือชื่อตนเองในหนังสือมอบอำนาจในช่องผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ไปจดทะเบียน โดยมีจำเลยที่ ๒ ลงลายมือชื่อเป็นพยานในหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวด้วย และจำเลยที่ ๓ ในฐานะสมาชิกสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภาลงลายมือชื่อในช่องผู้รับรองลายมือชื่อโจทก์ในคำขอจดทะเบียน ซึ่งโจทก์ไม่เคยยื่นคำขอหรือมอบอำนาจให้ผู้ใดยื่นคำขอและไม่เคยรู้จักจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ และเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ จำเลยที่ ๑ นำเอกสารปลอมดังกล่าวยื่นต่อจำเลยที่ ๔ และจำเลยที่ ๔ รับจดทะเบียนให้ ต่อมาประมาณเดือนตุลาคม ๒๕๕๓ โจทก์ได้รับหนังสือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จังหวัดนนทบุรี หนังสือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หนังสือกลุ่มงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ ๒ และหนังสือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสระบุรีแจ้งคำสั่งให้โจทก์ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างรวม ๔ ราย ทำให้โจทก์ทราบว่ามีการปลอมลายมือชื่อโจทก์ จึงขอให้จำเลยที่ ๔ เพิกถอนการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด แฟมมิลี่ แอนด์ แฮปปี้ แคร์ เซอร์วิส แต่จำเลยที่ ๔ แจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เว้นแต่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล ขอให้พิพากษาหรือมีคำสั่งว่า คำขอและเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด แฟมมิลี่ แอนด์ แฮปปี้ แคร์ เซอร์วิส เป็นเอกสารปลอม ให้การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวเป็นโมฆะหรือเพิกถอนการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวหรือเพิกถอนชื่อโจทก์จากการเป็นหุ้นส่วน กับให้เพิกถอนนิติกรรมทั้งหมดที่กระทำขึ้นในนามห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าว
จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ให้การว่า ได้กระทำการโดยสุจริตและไม่มีเจตนาร่วมกันปลอมเอกสาร การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัดในชื่อแฟมมิลี่ แอนด์ แฮปปี้ แคร์ เซอร์วิส เป็นการดำเนินการของสำนักงานการบัญชี เจทีเอ็น จำกัด ที่มีจำเลยที่ ๒ เป็นกรรมการผู้จัดการ โดยการติดต่อว่าจ้างของนางสาวสุดารัตน์ ศรีศิริ ซึ่งจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ไม่เคยพบตัว ไม่รู้จัก และไม่ทราบว่าผู้ว่าจ้างเป็นบุคคลที่แท้จริงตามบัตรประชาชนหรือไม่ และไม่ทราบว่าลายมือชื่อเป็นของบุคคลใด จำเลยที่ ๑ เป็นเพียงผู้ดำเนินการส่งเอกสารให้ผู้ว่าจ้างลงลายมือชื่อและตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนแล้วส่งให้จำเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นทนายความและเป็นสมาชิกวิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภาลงลายมือชื่อรับรองลายมือชื่อนางสาวสุดารัตน์เท่านั้น มิได้รับรองตัวตนแต่อย่างใด
จำเลยที่ ๔ ให้การว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบและวิธีปฏิบัติแล้ว โดยในการพิจารณาคำขอและเอกสารประกอบการจดทะเบียนพบว่ามีเอกสารครบถ้วนและไม่พบข้อห้ามมิให้รับจดทะเบียน ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๔ ยื่นคำร้องโต้แย้งเขตอำนาจศาลว่า จำเลยที่ ๔ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ การที่จำเลยที่ ๔ มีคำสั่งไม่เพิกถอนการจดทะเบียนเป็นคำสั่งทางปกครอง คดีจึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม แต่เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
ศาลจังหวัดนนทบุรีพิจารณาแล้วเห็นว่า จากคำฟ้องและคำให้การคงมีประเด็นแต่เพียงว่าลายมือชื่อโจทก์ตามคำขอจดทะเบียนเป็นลายมือชื่อปลอมหรือไม่ การพิจารณาว่าจะเพิกถอนการจดทะเบียนได้หรือไม่ก็ต้องพิจารณาถึงสิทธิทางแพ่งเป็นสำคัญ กล่าวคือ ถ้าเอกสารคำขอจดทะเบียนและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำขอจดทะเบียนตามคำฟ้องเป็นเอกสารปลอมก็ต้องเพิกถอนการจดทะเบียน ข้อพิพาทคดีนี้ในส่วนของจำเลยที่ ๔ จึงมิใช่ข้อพิพาทเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่เป็นคดีเกี่ยวกับสิทธิในทางแพ่งที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า การรับจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดของจำเลยที่ ๔ เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย อันมีลักษณะเป็นการก่อตั้งสิทธิหรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลผู้เป็นหุ้นส่วน ห้างหุ้นส่วนจำกัดและโจทก์ มิใช่เป็นเพียงการรับรองสิทธิของนิติบุคคลในทางแพ่งเท่านั้น ประกอบกับกฎกระทรวงจัดตั้งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แต่งตั้งนายทะเบียน และกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด พ.ศ. ๒๕๔๙ และระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ว่าด้วยการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้กำหนดขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติงานของนายทะเบียนโดยเฉพาะเรื่องวิธีการลงลายมือชื่อและการตรวจสอบการลงลายมือชื่อซึ่งนายทะเบียนจะต้องดำเนินการตามที่ระเบียบดังกล่าวกำหนดไว้ อีกทั้งยังกำหนดให้มีการอุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนที่ปฏิเสธการรับจดทะเบียน คำสั่งรับจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดของจำเลยที่ ๔ จึงเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ เมื่อโจทก์ฟ้องว่าคำสั่งทางปกครองของจำเลยที่ ๔ คือการรับจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดโดยมีชื่อโจทก์เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือให้เพิกถอนโจทก์ออกจากห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าว กรณีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งทางปกครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ส่วนประเด็นว่าจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ปลอมลายมือชื่อโจทก์ในคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือไม่ เป็นข้ออ้างของโจทก์ที่ศาลจะต้องพิจารณาในเนื้อหาแห่งคดีต่อไป แต่มิได้เป็นผลให้อำนาจศาลในการพิจารณาพิพากษาคดีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ เปลี่ยนแปลงไป คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
คำวินิจฉัย
ปัญหาที่ต้องพิจารณา คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง
คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ซึ่งเป็นเอกชน และนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดนนทบุรี จำเลยที่ ๔ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ อ้างว่าได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ร่วมกันปลอมลายมือชื่อโจทก์ในคำขอและเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด แฟมมิลี่ แอนด์ แฮปปี้ แคร์ เซอร์วิส โดยให้โจทก์เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและเป็นผู้ขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวซึ่งเป็นความเท็จ แล้วนำเอกสารปลอมดังกล่าวยื่นต่อจำเลยที่ ๔ และจำเลยที่ ๔ รับจดทะเบียนให้ โดยโจทก์ไม่ได้รู้เห็นกับการจดทะเบียนดังกล่าว จึงขอให้จำเลยที่ ๔ เพิกถอนการจดทะเบียน แต่จำเลยที่ ๔ แจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้พิพากษาหรือมีคำสั่งว่าคำขอและเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด แฟมมิลี่ แอนด์ แฮปปี้ แคร์ เซอร์วิส เป็นเอกสารปลอม ให้การจดทะเบียนเป็นโมฆะหรือเพิกถอนการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวหรือเพิกถอนชื่อโจทก์จากการเป็นหุ้นส่วน กับให้เพิกถอนนิติกรรมทั้งหมดที่กระทำขึ้นในนามห้างหุ้นส่วนจำกัด แฟมมิลี่ แอนด์ แฮปปี้ แคร์ เซอร์วิส เห็นว่า คดีนี้แม้โจทก์จะฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดนนทบุรี จำเลยที่ ๔ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กรณีไม่เพิกถอนการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดตามคำขอและเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ เป็นผู้ปลอมลายมือชื่อโจทก์มาด้วยก็ตาม แต่มูลเหตุแห่งการฟ้องคดีเกิดจากการที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ซึ่งเป็นเอกชน ได้ร่วมกันปลอมลายมือชื่อโจทก์ในเอกสารดังกล่าวเพื่อใช้ในการยื่นคำขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดต่อจำเลยที่ ๔ โดยจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ให้การต่อสู้ว่าได้กระทำโดยสุจริตและไม่มีเจตนาร่วมกันปลอมเอกสาร ดังนั้น ประเด็นข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็นกรณีที่ต้องพิสูจน์การกระทำของจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ว่า ได้ร่วมกันปลอมลายมือชื่อโจทก์ตามที่โจทก์กล่าวอ้างหรือไม่ อันเป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชนและเป็นเรื่องโจทก์ถือเอาเป็นข้อโต้แย้งสิทธิในคดี ส่วนคดีระหว่างโจทก์และจำเลยที่ ๔ ที่โจทก์กล่าวอ้างว่าไม่ยอมเพิกถอนการจดทะเบียนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว ก็เป็นกรณีที่สืบเนื่องมาจากคดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ เกี่ยวกับการปลอมลายมือชื่อโจทก์ในเอกสารดังกล่าวข้างต้น ทั้งข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง โจทก์ก็มิได้กล่าวอ้างถึงการกระทำของจำเลยที่ ๔ ว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ในการรับจดทะเบียนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบอย่างไร คงกล่าวอ้างแต่เพียงว่าจำเลยที่ ๔ แจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนได้เว้นแต่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล ซึ่งก็หมายถึงคำพิพากษาในประเด็นปัญหาว่าจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ได้ร่วมกันปลอมลายมือชื่อโจทก์หรือไม่ เมื่อประเด็นข้อพิพาทเป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชนด้วยกันเอง คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
จึงวินิจฉัยชี้ขาดว่า คดีระหว่าง นางสาวสุดารัตน์ ศรีศิริ โจทก์ นายอรุณ รัตนเรือง ที่ ๑ นางจิตตินันท์ แกล้วกสิกิจ ที่ ๒ นายฑีฆายุบุตร คุปอริยสิทธิ์ ที่ ๓ นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดนนทบุรี ที่ ๔ จำเลย อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
(ลงชื่อ) ดิเรก อิงคนินันท์ (ลงชื่อ) สุวัฒน์ วรรธนะหทัย
(นายดิเรก อิงคนินันท์) (นายสุวัฒน์ วรรธนะหทัย)
ประธานศาลฎีกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลยุติธรรม
(ลงชื่อ) หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล (ลงชื่อ) จรัญ หัตถกรรม
(นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล) (นายจรัญ หัตถกรรม)
ประธานศาลปกครองสูงสุด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครอง
(ลงชื่อ) พลเรือโท กฤษฎา เจริญพานิช (ลงชื่อ) พลตรี พัฒนพงษ์ เกิดอุดม
(กฤษฎา เจริญพานิช) (พัฒนพงษ์ เกิดอุดม)
หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของศาลทหาร
(ลงชื่อ) จิระ บุญพจนสุนทร
(นายจิระ บุญพจนสุนทร)
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ